bookmark_border3 พฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย

พฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย คนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ มักที่จะมีพฤติกรรมการปล่อยละเลยการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง เพราะการใช้ชีวิตในสมัยปัจจุบันนี้ ส่งผลให้บางคนจำเป็นที่จะต้องปล่อยละเลยการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง เพราะต้องเอาร่างกายได้ไปเต็มที่กับการทำงาน การเรียน หรือแม้แต่เรื่องจำเป็นอื่น ๆ เองก็ตา

ซึ่งรู้หรือไม่ว่า ไม่ว่าเราจะทำงานหนัก หรือทำอะไรหนักมากแค่ไหนก็ตาม การดูแลสุขภาพร่างกายก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะหากเรามีสุขภาพร่างกายที่ไม่ดี ก็อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในประจำวันของเราได้ อีกทั้งยังอาจทำให้ร่างกายของเรานั้นอ่อนแอ และเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย

ดังนั้น การดูแลสุขภาพร่างกานของตนเองให้ดี จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เรามาควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การออกกำลังกาเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ การเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงการใช้ชีวิตให้มีความสุข ไม่เครียด ก็สามารถเสริมสร้างความแข็งแรง และทำให้การใช้ชีวิตของเรานั้นเต็มไปด้วยประสิทธิภาพมากขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าตนเองนั้นก็อาจมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการทำลายสุขภาพร่างกายของตนเอง ซึ่งวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า จะมีพฤติกรรมไหนบ้างที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย เผื่อว่าจะทำให้หลาย ๆ คนนั้นหันมาใส่ใจ และดูแลร่างกายมากขึ้น ไปดูกันเลย 

  • การยืน

พฤติกรรมนี้ เรียกได้ว่าเป็นพฤติกรรมที่หลาย ๆ คนไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ แต่รู้หรือไม่ว่าการยืน ก็ถือเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่เป็นตัวทำลายสุขภาพร่างกายของเราได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเรามีพฤติกรรมการยืนนานจนเกินไป เพราะการยืนนาน ๆ จะยิ่งทำให้เรานั้นมีอาการปวดเข่า ปวดหลัง รวมไปจนถึงอาการปวดเมื่อยตามร่างกายได้อีกด้วย อีกทั้งยังอาจทำให้ร่างกายของเรานั้นได้รับความเสี่ยงต่อการทำลายสุขภาพร่างกายทางอ้อมอีกด้วย 

  • การหิ้วของ

เชื่อว่าสาว ๆ ส่วนใหญ่ในสมัยนี้ชื่นชอบการช้อปปิ้งกันเป็นอย่างมาก รู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมการหิ้วของเยอะเกินไป ก็ถือเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่อาจทำลายสุขภาพร่างกายของเราได้ เพราะการที่เราหิ้วของหนักบ่อย ๆ นั้น อาจทำให้พังผืดยึดตามข้อนิ้วของเราได้ เพราะเนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณมือนั้น เป็นกล้ามเนื้อมัดเล็ก จึงไม้สามารถใช้งานได้หนัก หากจะต้องหยิบจับอะไรที่มันหนักจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหิ้วของ ก็อาจเป็นการทำลายสุขภาพของเราได้นั่นเอง 

  • การนั่ง

เนื่องจากคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ ใช้ชีวิตเต็มที่ไปกับการทำงาน และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน โดยไม่สามารถลุกไปไหนได้ ซึ่งรู้หรือไม่ว่า การที่เรานั่งทำงานนานเกินไปนั้น นอกจากจะทำให้ร่างกายของเราได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้อีกด้วย ยิ่งถ้าใครนั่งผิดท่า ก็จะยิ่งมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายได้ง่าย ทั้งยังทำให้เป็นโรคหมอนรองกระดูกสันหลังได้อีกด้วย 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังราคาถูก

bookmark_borderกระบวนการต่อต้านความจำ

โลกของเราไปนี้ประกอบไปด้วยหลายสิ่งหลายอย่างมากมาย โดยที่เราเองก็ยังคงมีบางเรื่องบางสิ่งบางอย่างที่เรายังไม่ได้ศึกษาและค้นหาเกี่ยวกับมัน  แต่ก็ใช้ว่าในอนาคตเราจะไม่ทำแบบนั้นเพราะว่าโลกของเรามีสิ่งใหม่ๆเกิดขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา  เราไม่ควรที่จะหยุดนิ่งเราควรที่จะเปิดโลกกว้างศึกษาสิ่งใหม่ๆเรียนรู้สิ่งใหม่ๆไหม

กระบวนการต่อต้านความจำ เพราะว่ามันจะทำให้เราเข้าใจโลกใบนี้เพิ่มมากยิ่งขึ้น  การที่เราไม่นิ่งที่มันทำให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจโลกใบนี้เพิ่มมากยิ่งขึ้น  เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่     โดยที่คุณเองก็อาจจะยังไม่เคยได้รับรู้มาก่อนว่ามันจะทำให้เราได้เรียนรู้โลกใบนี้มาขึ้นได้อย่างไรถ้าหากคุณยังไม่ได้ออกไปศึกษาค้นหาเกี่ยวกับมัน 

เรื่องราวต่างๆมากมายที่มีความน่าสนใจ  ที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้นั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า  น่าค้นหาเป็นอย่างมากเพราะว่ามันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสมองของเรา     ซึ่งในวันนี้ฉันมีความน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน และทำความรู้จักกันดีกว่ากับเรื่องราว ที่มีชื่อว่ากระบวนการต่อต้านความจำ  ถ้าหากว่าสมองของเรารับข้อมูลต่างๆเข้ามาแล้ว

  จดจำมันได้อย่างแจ่มแจ้งแล้วคงอยู่อย่างถาวร ในวันหนึ่งสมองของเราคงไม่สามารถรับข้อมูลใหม่เข้ามาได้  คล้ายกับการที่ฮาร์ดดิสก์เต็ม  ดังนั้นจึงเกิดคำถามที่ว่าสมองของเรามีกระบวนการแก้ไขปัญหานี้อย่างไร  ซึ่งจากงานวิจัยในปี 2016 ระบุว่า มีหลักฐานเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า Anti Memories หรือกระบวนการต่อต้านความจำ เนื่องจากการรับข้อมูลต่างๆเข้ามาในสมองนั้นเซลล์สมอง 

จะเชื่อมโยงถึงกันด้วยกระแสประสาทจะเกิดการรับรู้และการจดจำขึ้นมาซึ่งหากมันมีมากเกินไป  จนเกิดเป็นภาวะเสียสมดุลกว่านำไปสู่อาการผิดปกติทางสมองได้  ดังนั้นเพื่อรักษาสมดุลที่ว่านี้ Anti Memories จึงเข้ามามีบทบาทในการสร้างการเชื่อมโยงของเซลล์ประสาทใน  ทิศทางตรงข้ามกับตอนแรก ผลคือ มันจะทำให้เราลืมข้อมูลเหล่านั้น

  แล้วสามารถรับข้อมูลใหม่ๆเข้ามาได้แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือสิ่งที่เราคิดว่าลืมไปแล้ว มันได้รับการกระตุ้นอย่างเหมาะสม ก็พบว่าสามารถกลับมาจดจำได้อีกครั้ง  นั้นจึงเป็นไปได้ว่าข้อมูลหลายๆอย่างไม่เคยถูกลบออกไป  แต่อาจจะมีกระบวนการจัดเก็บบางอย่างที่ซ่อนเอาไว้ในส่วน

  หรือคล้ายกับการปิดผนึกเอาไว้นั่นเอง ทุกสิ่งทุกอย่างมากมายบนโลกของเราใบนี้นั้นก็น่าจะมีความน่าสนใจและการศึกษาอื่นๆสำหรับเรื่องราวที่เราที่กล่าวไว้ข้างต้นเป็นเพียงส่วนเล็กๆเท่านั้นที่เราอยากเสนอให้ทุกคนได้รับรู้  ถ้าคุณสนใจอยากจะทำความรู้จักเพิ่มเติมก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย

bookmark_borderเคล็ดลับการบำรุงสายตาฉบับสาวไอที

เคล็ดลับการบำรุงสายตาฉบับสาวไอที สมัยปัจจุบันนี้ชีวิตของคนเราเต็มไปด้วยการทำงานส่วนใหญ่  และในแต่ละวันนั้นก็จะต้องนั่งใจจดใจจ่ออยู่กับการทำงาน จนส่งผลให้สายตาของบางคนเกิดการเสื่อมลงนั่นเอง

ซึ่งรู้หรือไม่ว่าสายตาของคนเรานั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากที่เราจะต้องดูแลรักษาให้ดี เพื่อให้ใช้งานอย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น เพราะเนื่องจากว่าสายตาเป็นหนึ่งในอวัยวะที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อการใช้ชีวิต อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในอวัยวะที่เราจำเป็นจะต้องดูแลรักษาให้ดี เพื่อไม่ให้สายตาเสื่อมด้ง่าย แต่ทว่าในสมัยปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่มักที่จะมีพฤติกรรมการใช้งานสายตามากเกินไป โดยฉพาะหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ หรือพนักงานไอที ที่จำเป็นจะต้องนั่งจ้องหน้าจอคอมตลอดทั้งวัน จนทำให้สายตานั้นเสียได้ง่าย

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการทำงานของเราจะหนักมากแค่ไหนก็ตาม เราก็ไม่ควรที่จะปล่อยละเลยการดูแลสายตา หรือถนอมสายตาเพื่อให้ใช้งานได้นานมากขึ้น ดังนั้น วันนี้เราก็จะมาแนะนำเคล็ดลับในการบำรุงสายตาฉบับสาไอที ซึ่งก็เป็นวิธีง่าย ๆ ในการรักษาสายตาให้อยู่กับเราไปนาน ๆ จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

การเลือกรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา แน่นอนว่าการเลือกรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตาโดยเฉพาะ เป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมากที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ดวงตาของเรานั้นมีอาการล้า เมื่อต้องนั่งจ้องหน้าจอนาน ๆ เนื่องจากถูกใช้งานอย่างหนัก ดังนั้น การบำรุงสายตาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรดูแล ซึ่งเราก็ควรที่จะเลือกอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อสายตา เช่น ผักบุ้ง แครอท ฟักทอง ซึ่งอาหารต่าง ๆ เหล่านี้ก็มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตาได้ทั้งนั้น รับรองได้เลยว่าหากทานเป็นประจำจะยิ่งดีต่อสายตาอย่างแน่นอน 

ควรกะพริบตาให้บ่อยขึ้น การที่เราใช้สายตานานเกินไป อาจทำให้สายตาของเรามีอาการปวดเมื่อย หรือล้าได้ ซึ่งแน่นอนว่าอาจไม่เป็นผลดีต่อสายตาของเราเป็นแน่ ฉะนั้น ทางที่ดีเราควรที่จะหาเวลาเพื่อบริหารสายตากะพริบตาให้บ่อยมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้สายตาของเรามีอาการปวด และเพื่อช่วยให้สายตาของเรานั้นมีความชุ่มชื่น เพื่อช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการที่ตาเราจะแห้งได้ นั่นเอง 

การพักสายตาทุก 30 นาที ไม่ว่าเราจะทำงานหนักมากแค่ไหนก็ตาม สายตาของเราก็ควรที่จะมีเวลาหยุดพัก อาจจะไม่ใช่ทุก 30 นาทีก็ได้ หากมีเวลาว่าง ๆ เราก็ควรที่จะสายตาออกมาจากหน้าจอบ้าง เพื่อให้สายยตาของเราได้ผ่อนคลายเพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อตาของเรานั้นจะมีอาการพร่ามัว เบลอ หรือสายตาแห้งได้ ดังนั้น การพักสายตาบ่อย ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม การเอาสายตาตัวเองออกมาจากหน้าจอ มองออกไปในสถานที่ที่สบายตา หรือสถานที่ที่มีสีเขียว จะยิ่งทำให้สายตาของเรารู้สึกสบายได้ 

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังที่เสียงรบกวนน้อยที่สุด

bookmark_border3 ข้อควรรู้ก่อนเราจะออกไปวิ่งช่วงยุคโควิด

เราจะออกไปวิ่งช่วงยุคโควิด แน่นอนว่าในสมัยปัจจุบันนี้โลกของเรานั้นเต็มไปด้วยโรคระบาดอย่างหนัก ทำไมคนส่วนใหญ่นั้นจำเป็นที่จะต้องกักตัวอยู่บ้าน

จนไม่ได้ออกไปทำกิจกรรมต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นกีฬา การออกกำลังกายรวมไปถึงกิจกรรมอื่นๆอีกด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การที่เราจะต้องกักตัวอยู่บ้านนั้นอาจทำให้คนส่วนใหญ่นั้นมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกรับประทานอาหาร ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่นั้นมีความกังวลเกี่ยวกับน้ำหนักกันเป็นอย่างมาก

ดังนั้น การออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งกันออกไปวิ่ง เพราะเป็นหนึ่งในกิจกรรม ที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายได้ รวมไปถึงการช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบต่างๆภายในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่ชื่นชอบในการวิ่งอยู่แล้ว และอยากที่จะออกไปวิ่งในช่วงยุคโควิด ซึ่งเป็นยุคโรคระบาด วันนี้เราก็จะมาแนะนำสิ่งที่ควรรู้ก่อนที่เราจะออกไปวิ่งในช่วงยุคนี้ จะมีอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

การเช็กสภาพแวดล้อม แน่นอนว่าสภาพแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะถึงแม้ว่าการวิ่งจะเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ทำได้ง่ายเล่นที่ไหนก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วหากเรามีสถานที่ที่เหมาะสมก็จะยิ่งทำให้การวิ่งนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นแล้วก่อนที่เราจะออกไปวิ่ง ก็ควรตรวจสอบให้ดีว่าสภาพแวดล้อมนั้นเหมาะสมกับการวิ่งในช่วงนี้หรือไม่ เพื่อที่จะได้เซฟความปลอดภัยของตนเองอีกด้วย

การประเมินร่างกายตนเอง เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม ยิ่งช่วงนี้อยู่ในช่วงของโรคระบาด  เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ    ซึ่งถือเป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่นั้นอาจจะไม่รู้ตัวว่าตนเองป่วยก็ได้ ฉะนั้นแล้ว การประเมินหรือการตรวจสอบร่างกายของตนเองก่อนที่จะออกไปวิ่งในช่วงยุคนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมากเพราะหากร่างกายของเรามีอาการป่วยเพียงเล็กน้อย เราก็จะได้ไม่ต้องออกไปวิ่ง เพื่อที่จะช่วยให้ร่างกายของเราไม่ได้ไปรับเชื้อโรคจากคนอื่นนั่นเอง

การหยุดวิ่ง หลังจากที่เราได้ออกไปวิ่งแล้วและรู้สึกว่าร่างกายของตนเองนั้นไม่ค่อยไหว จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะ ไม่ต้องฝืนร่างกายของตนเอง แต่เราควรที่จะบอกคนรอบข้าง เพื่อขอความช่วยเหลือว่าร่างกายของเรานั้น วิ่งไม่ไหวแล้ว เพื่อที่จะได้ไม่เกิดความอันตรายขึ้นกับร่างกาย เพราะยิ่งในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีโรคระบาดจึงทำให้ร่างกายของเรานั้นเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคและ โรคระบาดได้ง่าย เนื่องจากร่างกายของเรานั้นอ่อนแอ

bookmark_borderเคล็ดลับการช่วยเผาผลาญไขมันสำหรับคนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย

ไขมันส่วนเกิน เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลาย ๆ คนนั้นมีความกังวลใจกันเป็นอย่างมาก เพราะไขมันที่เรามีอยู่บนร่างกายของเรานั้น อาจเป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เราเสียความมั่นใจได้ แถมยังใส่เสื้อผ้าแล้วดูไม่สวยอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้เราจะเห็นได้ หนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ ส่วนใหญ่นั้นเริ่มที่จะหันมาดูแลสุขภาพร่างกายกันมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการลดน้ำหนัก

เพื่อสลายไขมันส่วนเกินออกไป ซึ่งสมัยปัจจุบันนี้การเผาผลาญไขมันนั้นสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป

เคล็ดลับการช่วยเผาผลาญไขมัน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการออกกำลังกาย การเลือกรับประทานอาหาร รวมไปถึงวิธีอื่น ๆ อีกมากมาย แต่เนื่องด้วยบางคนอาจจะไม่มีเวลาออกกำลังกายเพื่อช่วยเผาผลผลาญไขมัน แต่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะยังมีอีกหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณนั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดี ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้เป็นอย่างดี

ฉะนั้น สำหรับใครที่ไม่ค่อยได้มีเวลาออกกำลังกาย หรือไม่ชื่นชอบการออกกำลังกายอยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็ยังอยากที่จะมีสุขภาพร่างกายที่ดี และช่วยให้ร่างกายนั้นมีการเผาผลาญไขมันที่ดีขึ้น วันนี้เราก็ได้มีเคล็ดลับง่าย ๆ มาแนะนำ จะมีวิธีไหนกันบ้างไปดูกันเลย 

การเลือกทานไขมันให้เพียงพอ เนื่องไขมันเป็นสิ่งที่ทำให้หลาย ๆ คนนั้นมีความกังวลใจว่าจะยิ่งทำให้เราอ้วน แต่รู้หรือไม่ว่า การที่ร่างกายของเราได้รับไขมันเข้าไปอย่างน้อยประมาณ 60% จะยิ่งดีต่อร่างกายของเรา เพราะสามารถช่วยในเรื่องของการเผาผลาญได้ดี และยังทำให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่ดี เพื่อช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

การเลือกทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ เนื่องจากว่าสารอาหารประเภทนี้จะยิ่งทำให้ร่างกายของเรานั้นใช้พลังงานจากไขมันจึงส่งผลให้น้ำหนักของเรานั้นลดลงได้ ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่สารอาหารประเภทนี้ได้เข้าสู่ร่างกายของเรามากเกินไป ก็อาจทำให้ร่างกายของเรานั้นไม่สามารถทำการเผาผลาญ และไม่สามารถทำให้น้ำหนักของเรานั้นลดลงได้นั่นเอง ดังนั้น ถ้าจะให้ดีก็ควรเลือกทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตที่ต่ำมาก ๆ เพื่อที่จะได้ช่วยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

การเลือกทำ IF หลายคนคงจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า วิธนี้เป็นวิธีการลดน้ำหนัก หรือช่วยเผาผลาญไขมันที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยวิธีนี้จะเป้นการที่เราจะต้องเลือกรับประทานอาหารให้ตรงเวลาที่ได้กำหนดไว้ และอาหารที่เราควรเลือกทานก็ต้องเป็นอาหารที่มีประโยชน์ และช่วยเร่งการเผาผลาญได้ดี แต่วิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่ได้เร่งด่วนอะไร ซึ่งสำหรับใครที่เป็นใอใหม่ก็ควรที่จะค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟัง ดิจิตอล

bookmark_borderเคล็ดลับป้องกันเป็นเบาหวาน

หลายคนได้เข้ามาถามเราว่าพอจะมีวิธีไหนที่จะป้องกันไม่ให้เป็นโรคเบาหวานเพราะว่าตอนที่ไปตรวจโรคประจำปีหลายคนก็เริ่มมีน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงแล้วคุณหมอก็จะบอกว่าคุณเริ่มมีน้ำตาลสูงจะเสี่ยงเป็นเบาหวานแล้ววันนี้เราเลยจัดให้เราจะมาเคล็ดลับดีๆในการป้องกันไม่ให้คุณเป็นโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานเกิดจากที่ร่างกายของเราผลิตฮอร์ดมนอินซูลินได้น้อยลงหรือร่างกายของเรามีภาวะดื้อต่ออินซูลินทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราสูงขึ้นๆจนกลายเป็นโรคเบาหวานขึ้นมานั้นเองโดยปัจจัยที่ส่งเสริมทำให้เกิดโรคเบาหวานก็มีอยู่หลายปัจจัยเลยทีเดียว

ซึ่งมีขึ้นปัจจัยที่แก้ไขได้แล้วก็มีปัจจัยที่แก้ไขไม่ได้ โดยปัจจัยที่แก้ไขไม่ได้ก็คือ อายุ และ กรรมพันธุ์ เมื่อเรามีอายุมากขึ้นๆตับอ่อนของเราก็จะเสื่อมถอยลงไปโอกาสที่จะทำให้เกิดโรคเบาหวานขึ้นมาก็เกิดได้ส่วนกรรมพันธุ์ใครที่มีญาติพี่น้องที่เป็นสายตรงเช่นพ่อแม่พี่น้องใครเป็นโรคเบาหวานเรามีโอกาสเป็นโรคเบาหวาน

ดังนั้นอย่าเพิ่งกังวลไปไม่ใช่ว่าพ่อแม่เป็นแล้วเราจะเป็นโรคเบาหวานร้อยเปอร์เซนแต่แค่เรามีโอกาสเป็นมากคนอื่นเท่านั้นเองเพราะฉะนั้นแล้วใครที่มีพ่อแม่เป็นเบาหวานอย่าเพิ่งไปกังวลแต่ก็มีปัจจัยหลายอย่างที่สามารถแก้ไขได้และวันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับดีๆในการที่จะแก้ไขและก็ป้องกันไม่ให้เราเป็นโรคเบาหวาน

ข้อแรกก็คือ ลดน้ำหนัก ใครที่มีภาวะอ้วนมีน้ำหนักเกินจำเป้นที่จะต้องลดน้ำหนักลงมาเพราะว่าการที่เราอยู่ในภาวะอ้วนก็จะส่งผลทำให้ร่างกายของเรามีภาวะดื้อต่ออินซูลินมากขึ้นทำให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นๆจนกลายเป็นโรคเบาหวานขึ้นมานั่นเอง

เคล็ดลับป้องกันเป็นเบาหวาน เพราะฉะนั้นใครที่มีภาวะอ้วนหรือว่ามี BMI เกิน25ขึ้นไปจำเป็นจะต้องลดน้ำหนักลงมาเพื่อป้องกันไม่ให้เราเป็นโรคเยาหวานนั่นเอง

ข้อสองก็คือ ให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มีผลงานวิจัยบอกว่าการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอสามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรคเบาหวานได้สำหรับใครที่ตอนนี้ยังไม่เคยออกกำลังกายเลยแนะนำว่าให้หันมาออกกำลังกายรับรองเลยสามารถถป้องกันเบาหวานได้

แนะนำว่าในแต่ละวันให้อกกกำลังกายอย่างน้อย30นาทีต่อวันแล้วก็ในหนึ่งอาทิตย์ออกกำลังกายอย่างน้อย5วันต่อสัปดาห์หรือสรุปง่ายๆแต่ละวันออกแค่30นาทีก็พอแล้วก็ในหนึ่งอาทิตย์ขอแค่เพียงห้าวันก็พอมันก็จะส่งผลทำให้ร่างกายของเรามีสุขภาพที่แข็งแรงป้องกันโรคเบาหวานได้บำรุงหัวใจทำให้เราแข็งแรงด้วยยังไงก็ลองไปทำกันดูรับรองเลยว่าสามารถป้องกันโรคเบาหวานได้

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

bookmark_borderอาการเครียดต่างๆ ที่ทำให้ลดน้ำหนักได้ยาก

เพื่อนๆหลายคน ลดน้ำหนักและลดไขมันแบบเครียดไม่รู้ตัวเลย ที่ทำให้ลดน้ำหนักได้ยาก และการที่เพื่อนๆและสาว ๆลดน้ำหนักหรือลดไขมันแบบนี้จะทำให้การลดน้ำหนักยากกว่าเดิมอีกนะ ดังนั้นเพื่อนๆและสาวๆ ต้องไม่ลดน้ำหนักแบบเครียดๆ อีกนะ เรามาดูกันดีกว่าอะไรที่ทำให้เกิดการเครียดเพิ่มขึ้นในการลดน้ำหนักจนกลายเป็นอุปสรรคได้ 

-ชอบชั่งน้ำหนักทุกๆวัน หรือบางคนชอบชั่งทุกครั้งหลังกินอาหาร

เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากลดน้ำหนักหรือลดไขมัน การชั่งน้ำหนักไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่การที่เพื่อนๆและสาวๆ ยิ่งชั่งบ่อยๆ และเห็นน้ำหนักตัวเองไม่เปลี่ยนแปลง หรือบางคนที่ชั่งทุกครั้งหลังกินอาหารนั้นไม่ใช้เรื่องที่ดีเพราะว่าหากเพื่อนๆและสาวๆ เห็นว่าน้ำหนักมันไม่เปลี่ยนแปลงหรือมากขึ้น จะทำให้เพื่อนๆและสาวๆ เครียดและกดดันกับน้ำหนักบนตาชั่งได้

-กินแต่ผักอย่างเดียวไม่กินอย่างอื่นเลย

เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากลดน้ำหนักหรือลดไขมัน เลยเลือกที่จะกินผักอย่างเดียวเท่านั้นเพราเชื่อว่ากินผักจะทำให้ไม่อ้วน  เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก    เพราะไม่มีแคลอรี่ แต่กลายเป็นว่าร่างกายเพื่อนๆและสาวๆ นั้นเกิดความเครียดจากการกินผักอย่างเดียวและทำให้ร่างกายจดจำอาหารที่มีแคลอรี่น้อย บวกกับความเครียด ทำให้ร่างกายกลัวร่างกายขาดพลังงานเข้ามา เลยทำให้ร่างกายเรานั้นเริ่มไม่ค่อยเผาผลาญไขมันละ

-ออกกำลังกายอย่างหนัก หรือ หักโหมมาก

เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากจะผอมหรือลดไขมันให้ได้ไว ก็เลยพยายามออกกำลังกายอย่างหนัก ออกทุกๆๆวัน และแต่ละครั้งที่ออกกำลังกายก็ออกอย่างหักโหม จนร่างกายเกิดความเพลียและอ่อนล้า และฟื้นฟูตัวเองไม่ทัน จนไม่สร้างซ่อมแซ่มส่วนที่สึกหรอได้ เพื่อนๆ อาจะจะลดน้ำหนักได้นะ แต่กลายเป็นว่ากล้ามเนื้อจะหายไป และในผลที่ตามมากจากการที่ออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงก็คือ ร่างกายจะเริ่มเผาผลาญไขมันน้อยลงเรื่อยๆและลดน้ำหนักหรือลดไขมันได้ยากขึ้นด้วยนะ 

-เครียดกับการลดไขมันจากการกดดันตัวเอง

เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากลดน้ำหนักหรือลดไขมันได้ไวๆ นั้น จะดีมากถ้าเพื่อนๆและสาวๆ ไม่เกิดความเครียด เพราะว่าหากเพื่อนๆและสาวๆ เกิดความกดดันในการลดน้ำหนักหรือลดไขมัน และทำให้ตัวเองเครียดจากการลดน้ำหนักหรือลดไขมันแล้วละก็ ร่างกายจะเริ่มกลัวการเผาผลาญและร่างกายจะเริ่มเผาผลาญยากขึ้นเรื่อยๆ นั้นเอง ดังนั้นหากเพื่อนๆและสาวๆ อยากลดได้อย่างยาวนาน ต้องทำการลดน้ำหนักหรือลดไขมันแบบไม่เครียดและทำให้สดใส ไม่กดดันจนเกินไปนะ ไม่งั้นจะลดได้ยากละ

bookmark_borderการป้องกันกระดูกไม่ให้พรุน

1.วิธีที่หนึ่งก็คือ รับประทานอาหารที่แคลเซียมสูง ก็ตรงไปตรงมา เพราะว่าองค์ประกอบของเราส่วนใหญ่เป็นแคลเซียมนั่นเองเราจำเป็นที่จะต้องทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงๆเข้าไปเพื่อไปบบำรุงกระดูกของเรานั่นเองแล้วจะมีอาหารอะไรบ้างล่ะที่จะมีแคลเซียมสูง

ซึ่งจะเป็นพวก นม ปลาทอดตัวเล็กๆให้รับประทานเข้าไปทั้งตัวเข้าไปเลยแล้วก็พวกผักผลไม้ต่างๆที่มีแคลเซียมสูงสามารถหามารับประทานได้เพื่อบำรุงกระดูกของเรา สำหรับใครที่แพ้ นมวัว สามารถที่จะทานนมอื่นๆได้ไม่ว่าจะเป็นนมถั่วเหลืองก็ได้ นมอัลมอนด์  หรือว่า ในตอนนี้ก็จะมีพวกนมที่ไม่มีน้ำตาลแลคโตส ก็ทานได้ท้องไม่เสียแต่สำหรับใครที่ไม่ชอบรับประทานทานนมไม่ได้ทานปลาอะไรไม่ได้ก็อาจจะหาซื้อเม็ดแคลเซียมมาทานก็ได้อาจจะเป็นเม็ดฟู่หรือว่าเป็นยาเม็ดเราเอามารับประทานเสริมเข้าไปมันก็จะช่วยป้องกันไม่ให้กระดูกพรุนได้

วิธีที่สองก็คือ งดบุหรี่ สุรา คาเฟอีน สำหรับเรื่องของบุหรี่แนะนำว่าให้งดเพราะว่าการสูบบุหรี่มันจะทำให้เลือดของเราเป็นกรด เมื่อเลือดขอเราเป็นกรดมันก็จะเข้าไปสหลายแคลเซียมจากกระดูกของเราออกมาเรื่อยๆนั่นเอง

ดังนั้นใครที่สูบบุหรี่จัดๆระวังเพราะว่ามันเป็นปัจจัยนึงที่จะทำให้กระดูกพรุนได้ยังไงก็ให้ท่านหลีกเลี่ยงแล้วก็ต่อมาในเรื่องของแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะเป็นสุราหรือว่าเบียร์หรือว่าไวน์ต่างๆเวลารับประทานเข้าไปแล้วก็จะทำให้ลดการดูซึมแคลเซียมในกระเพาะของเรา

การป้องกันกระดูกไม่ให้พรุน เวลาที่แคลเซียมดูดซึมได้น้อยลงันก็จะเข้าไปเสริมกระดูกของเราได้น้อยลงเช่นกันก็จะทำให้กระดูกของเราพรุนได้ง่ายเช่นกันและต่อมาสำหรับเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนไม่ว่าจะเป็นชาหรือกาแฟน้ำอัดลมเครื่องดื่มชูกำลังก็แนะนำว่าคุณอย่าไปดื่มมาก

คุณสามารถดื่มได้แต่ไม่ใช่ว่าวันนึงอาจจะดื่นกาแฟสามแก้วบบนี้มันก็เยอะเกินไปเพราะว่าพวกเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมันก็จะมีตัวฟอสเฟลที่เยอะยิ่งใครที่เป็นโรคไตด้วยแล้วเวลาที่มีฟอสเฟลเยอะๆร่างกายก็จะสหลายแคลเซียมจากกระดูกมากเพื่อที่จะมาจับกับฟอสเฟสนั่นเอง

เมื่อเราดื่มเข้าไปมากๆเข้ากระดูกของเราก็จะพรุนมากขึ้นๆทำให้บางทีเกิดกระดูกหักได้เลยเลยทีเดียวดังนั้นแล้วแนะนำว่าให้คุณดื่มในปริมาณที่เหมาะสมวันนึงคุณอาจจะดื่มกาแฟสักแก้วนึงก็เพียงพอแล้วและก็ไม่ควรที่จะเกินสองแก้วก็จะช่วยป้องกันไม่ทำให้กระดูกของท่านพรุนนั่นเอง

ส่วนเรื่องของสมุนไพรยาต้มยาหม้ออะไรต่างๆเพราะว่ายาเหล่านี้บางยี่ห้อบางชนิดก็จะมีส่วนผสมของสเตรอยนั่นเองการที่เราทานสเตรอยเข้าไปเป็นเวลานานๆจะส่งผลทำให้กระดูกของเราบางลงๆแล้วก็พรุนในที่สุดนั่นเองแนะนำว่าจะใช้ยาอะไรให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้กระดูกของท่านพรุน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน

bookmark_borderน้ำมูก สามารถที่จะบอกอาการป่วยของเราได้จากสี

น้ำมูก สามารถที่จะบอกอาการป่วย ยามถึงเวลาป่วยอาการแรกๆที่พิจารณาได้ส่วนใหญ่เป็นอาการปวดเหมื่อยตามเนื้อตามตัว แล้วและก็ตามด้วยน้ำมูกที่มีการไหลออกมา ถ้าเกิดไม่ทำความสะอาดก็จะแปลงเปลี่ยนเป็นขี้มูกปกปิดรูจมูกให้หายใจไม่สะดวกอีกจนกระทั่งจำต้องพกทิชชู่ประจำตัวตลอด ซึ่งก็น่าอัศจรรย์อยู่เช่นเดียวกันที่การป่วยบาง สีของน้ำมูก ก็เข้มน้อยแตกต่างกัน เราจึงขอแนะนำในการดูสีของน้ำมูกให้ได้รู้กันว่า สีของน้ำมูกสามารถสืบหาโรคที่เราเจ็บป่วยได้เช่นเดียวกัน

รู้จักประโยชน์ของน้ำมูก

ถ้าเกิดร่างกายรู้สึกเจ็บป่วยและก็ตอนที่เผชิญฝุ่นผงมลพิษ ร่างกายก็จะมีการกระตุ้นต่อสภาพแวดล้อม เหมือนที่พูดมาแล้วให้เยื่อบุทางเดินหายใจและก็ทางเดินอาหาร ตัวอย่างเช่น ปอด จมูก ไซนัส คอ ไปถึงกระทั่งหลอดลม ได้สร้างของเหลวเพื่อที่จะค่อยจับสิ่งปลอมปนที่ล่องลอยไม่ให้ไปสู่ร่างกายอากาศ ในบางทีอาจเป็นไปได้อีกทั้งฝุ่น สารก่อภูมิแพ้ รวมทั้งเชื้อไวรัส โดยน้ำมูกมีได้หลากสีขึ้นกับปัจจัยสำหรับการผลิตของร่างกาย ก็เลยทำให้เราสามารถที่จะดูสุขภาพพื้นฐานของเราได้จากน้ำมูกด้วยเหมือนกัน

ความหมายของน้ำมูกแต่ละสี

1.น้ำมูกใส เป็นน้ำมูกที่มีความข้นต่ำที่สุด มีลักษณะใส ไม่มีสี รวมทั้งเหลวเป็นน้ำ บ่งถึงการมีร่างกายแข็งแรง แม้กระนั้นคนจำนวนมากมักพบได้บ่อยมากตอนเป็นหวัดนิดหน่อย หรือภูมิแพ้ที่ไม่ได้รุนแรงมากรวมถึงตอนร้องไห้ เพราะว่าจมูกแห้ง ร่างกายเลยอยากที่จะให้โพรงจมูกเปียกชื้นเพิ่มมากขึ้น

2.น้ำมูกสีขาว มีลักษณะเหนียวกว่าแบบใส มีสาเหตุจากน้ำมูกขังอยู่ด้านในโพรงจมูกเป็นระยะที่ยาวนานกระทั่งสูญเสียน้ำที่เป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้น้ำมูกที่หนาเป็นสีขาวถึงแม้ปลอดภัยแม้กระนั้นแม้พบมากบางทีอาจเป็นสาเหตุของโรคไซนัส

3.น้ำมูกสีเขียว ซึ่งก็คือร่างกายเจ็บป่วย เนื่องจากว่าภูมิคุ้มกันของเรากำลังทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรคอยู่รอบๆทางเดินหายใจหรือก็คือการที่เซลล์เม็ดเลือดขาวจะสร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่ทำให้น้ำมูกเป็นสีเขียวผสมเหลืองออกมา

4.น้ำมูกสีแดง เป็นการส่งสัญญาณว่ามีอาการบาดเจ็บรอบๆจมูก หรืออาการเส้นโลหิตในโพรงจมูกแตก อีกทั้งจากการสั่งขี้มูกเยอะมากเกินไป แคะขี้มูกหลายครั้ง จะส่งผลให้น้ำมูกติดสีแดงจากเลือดรวมทั้งจะมีสีน้ำตาลที่เกิดจากเลือดที่แห้งแล้ว

5.น้ำมูกสีเทา พบเจอได้ยากโดยที่บางทีอาจเป็นอาการอีกแบบหนึ่งของอาการกำเนิดริดสีดวงด้านในโพรงจมูก โดยมีสาเหตุจากไซนัสที่มีการบวมเบ่งออกมา

6.น้ำมูกสีดำ อาจเป็นเพราะการได้รับเชื้อราที่ร้ายแรงจนถึงเป็นสัญญาณโรคแพ้อากาศจากเชื้อรา รวมทั้งเกิดจากการสูบบุหรี่หรือใช้สิ่งเสพติด และก็อยู่เขตอากาศที่เป็นมลภาวะเยอะเกินไป

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จหรือใส่ถ่านดีกว่ากัน

bookmark_borderคุณประโยชน์ดีๆของ “พริก” คนถูกใจรับประทานเผ็ดโดยตรง

คุณประโยชน์ดีๆของ “พริก” ของกินรสเผ็ด บางทีอาจสร้างความทรมาทรกรรมในช่องปากให้กับคนรับประทานจนถึงจะต้องเช็ดเหงื่อเฉือนน้ำตากันไปเป็นนานเลยและก็บางทีอาจจะป่วยไข้ท้องนักข้างหลังรับประทานเสร็จ แม้กระนั้นผู้ที่ถูกใจรับประทานเผ็ดอาจมีเฮ เมื่อทราบว่าของกินรสเผ็ดก็มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพได้เช่นกัน

พริกมาจากไหน?

พริกถูกศึกษาค้นพบทีแรกที่อเมริกากลาง รวมทั้งอเมริกาใต้ ในเมื่อราวๆ 7,000 ปีก่อน จาก คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ต่อจากนั้นได้มีการนำพริกมาปลูก และก็แพร่ขยายไปทั่วยุโรป ก่อนที่จะแผ่กระจายไปทั่วทั้งโลก ซึ่งเมืองไทยของเรานั้น ก็รู้จักและก็เคยชินกับการปลูกพริกมานานแล้ว

สายพันธุ์ของพริกในไทย มีอยู่ทั้งสิ้นราวๆ 831 สายพันธุ์ รวมทั้งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กรุ๊ปใหญ่เป็นพริกชี้ฟ้า พริกขี้หนูเม็ดใหญ่ รวมทั้งพริกขี้หนูเม็ดเล็ก สารแคปไซซินนี้ นอกเหนือจากที่จะดีต่อร่างกายแล้ว ยังมีลักษณะเด่นตรงที่ สามารถทนความร้อนได้ดิบได้ดี ทำให้ไม่ว่าจะผ่านวิธีการทำให้สุก หรือผึ่งแดดจนกระทั่งแห้ง ก็ยังคงความเผ็ดร้อนไว้ได้อย่างที่เคย

ประโยชน์ของการที่เรากินพริก

ลดน้ำหนัก   สารแคปไซซินอาจมีส่วนช่วยเผาผลาญพลังงานรวมทั้งไขมันภายในร่างกายได้ ก็เลยเป็นรสของกินของคนที่กำลังลดหุ่นได้ดิบได้ดี ก็เลยทำให้สารแคปไซซินเป็นองค์ประกอบของยาที่ช่วยสลายไขมันภายในร่างกายด้วย

บรรเทาอาหารไข้หวัด  พริกมีวิตามินซีที่มีส่วนช่วยสร้างเสริมรูปแบบการทำงานของระบบภูมิต้านทานสำหรับการคุ้มครองปกป้องการรับเชื้อ ที่บางทีอาจนำมาซึ่งการเจ็บป่วย แม้กระนั้นมีข้อคิดเห็นเป็น วิตามินซีไม่ใช่ยาที่ใช้รักษาโรคหวัด แม้กระนั้นอาจมีส่วนช่วยลดอาการร้ายแรงของหวัด ทุเลาอาการหวัด    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ      แล้วก็ทำให้รู้สึกตัวตัวได้ไว ย่นเวลาการเจ็บป่วยได้

ลดการอักเสบ ลดความเสี่ยงของมะเร็ง    ในพริกมีสารต้านอนุมูลอิสระที่นอกเหนือจากที่จะช่วยในเรื่องของผิวพรรณให้ผ่องใสแจ่มใสแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบภายในร่างกาย รวมทั้งลดการเสี่ยงสำหรับเพื่อการเป็นโรคโรคมะเร็งได้อีกด้วย

ช่วยให้อายุยืน    สารอาหารในพริก ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงเพิ่มขึ้น ก็เลยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายและก็แก่ยืนยาวขึ้นได้ด้วย

ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ  พริกจะช่วยลดการรวมกลุ่มของเกล็ดเลือด ช่วยละลายลิ่มเลือด ทำให้เลือดไม่จับตัวกันมีลักษณะที่กลายเป็นก้อนกระทั่งตันเส้นเลือด ซึ่งเป็นต้นเหตุหลักของโรคความดันเลือดสูง และก็โรคเส้นโลหิตและก็หัวใจ

ข้อควรระวังในการรับประทานพริก

ความเผ็ดของพริกไม่เหมาะสมกับคนที่มีโรคประจำตัวของระบบทางเดินอาหาร ดังเช่นว่า โรคแผลในกระเพาะ กรดไหลย้อน ไส้อักเสบ ฯลฯการกินพริกมากเกินความจำเป็น อาจส่งผลให้เจ็บท้อง ท้องร่วง หรือระคายกระเพาะได้ควรจะขอคำแนะนำแพทย์ก่อนจะมีการกิน เพราะว่าอาจจะทำให้เกิดปฏิกิริยาอาการแพ้ โดยยิ่งไปกว่านั้นกับสตรีตั้งท้องและก็อยู่ในตอนให้นมลูก