bookmark_borderแบคทีเรียในปากเกือบเท่าจำนวนคนบนโลก

แบคทีเรียในปาก อวัยวะต่างๆในร่างกายของเรานั้นทำงานกันเป็นระบบระเบียบ  มีหน้าที่แตกต่างกันออกไปแต่ทุกส่วนก็ทำงานประสานกันได้เป็นอย่างดี 

ทำให้ร่างกายของเรานั้นสามารถดำเนินชีวิตและใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เรื่องสมบูรณ์  แต่แน่นอนว่าถ้าหากว่าเราไม่ดูแลสุขภาพร่างกายของเราให้สมบูรณ์แข็งแรง  การที่เราจะใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างราบรื่น  มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่นักซึ่งในวันนี้เรื่องราวที่เรากำลังจะพูดถึงมันเกี่ยวกับเรื่องราวที่เราใช้ในการพูด และก็ใช้ในการรับประทานอาหาร ซึ่งมันก็คือปากของเรานั่นเอง 

แน่นอนว่าแบคทีเรีย มีอยู่ในทุกพื้นที่เลยก็ว่าได้  แต่เราเองก็ไม่สามารถที่จะมองเห็นมันได้แม้แต่ในปากของเราเองก็ยังคงมีแบคทีเรีย และคุณรู้หรือไม่ว่าสิ่งที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้เป็นเรื่องราว ที่มีชื่อว่าแบคทีเรีย ในปากเกือบเท่าจำนวนคนบนโลก  แน่นอนว่าถ้าหากคุณได้ยินมันก็คงเป็นอะไรไม่อยากให้เกิดขึ้น

แน่นอนทำไมแบคทีเรียในปากของเรา ถึงมีจำนวนเกือบเท่าคนบนโลก และทำไมเราถึงจะยกเรื่องราวดังกล่าวมาพูดถึง มีความน่าสนใจมากน้อยแค่ไหนกว่าเรื่องอื่นๆ

ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้กัน  แบคทีเรียในปากเกือบเท่าจำนวนคนบนโลก เมื่อได้ยินเกี่ยวเรื่องนี้หลายคนคงเกิดอาการพะอืดพะอมกันบ้าง  เพราะว่าในปากของคนเรา มีแบคทีเรียเยอะขนาดนั้นเลยหรอแน่นอน ในงานวิจัยกล่าวไว้ว่าในปากของเรานั้น มีแบคทีเรียมากกว่า 6 พันล้านตัว หรือเท่ากับประชากรบนโลกนี้ทั้งใบ 

ไม่เพียงเท่านั้นหากมีทั้งแบคทีเรียที่ดีและไม่ดีผสมกันอยู่ในช่องปาก ถ้าเรามี 2 สิ่งในปริมาณที่สมดุลจะทำให้สุขภาพในช่องปากของเรานั้นไม่มีปัญหา  ดังนั้นหากเราแปรงฟันอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวันรักษาความสะอาดให้ดี ก็ไม่ต้องกังวลกับเจ้าตากทีเรียตัวร้ายอีกต่อไปแล้ว นอกจากจำนวนแบคทีเรียในปากที่  เครื่องช่วยฟังราคาถูก   เกือบเท่าจำนวนคนบนโลกแล้ว 

ร่างกายของเราก็ยังมีอะไรอีกมากมายที่มีความน่าสนใจและเหมาะแก่การศึกษาเป็นอย่างมาก  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับกระดูกของเรา

  คุณรู้หรือไม่ว่ากระดูกนั้นมันแข็งแรงกว่าเหล็กและมนุษย์เราก็ยังมีเปลือกตาที่ 3 อีกด้วย  แต่ทว่าถ้าคนสนใจอยากจะทำความรู้จักเรื่องดังกล่าวนี้เพิ่มเติม ก็ต้องไปศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมดูได้  ผ่านอินเตอร์เน็ตรับรองว่ามันจะเป็นอะไรที่ทำให้คุณต้องเปิดโลกกว้างอีกมากมาย และก็อยากจะศึกษาสิ่งต่างๆเกี่ยวกับร่างกายของเราเพิ่มขึ้นมาก็ได้

bookmark_borderงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับโกฐจุฬาลัมพา

งานวิจัยจากสหรัฐอเมริกา เรื่องราวที่น่าสนใจที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้นั้น  เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรไทย ที่ใครหลายคนต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี หรือว่าใครบางคนอาจไม่เคยรู้จักเลย

ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า  ก็ได้มีงานวิจัยของทางสหรัฐอเมริกา  ออกมาเปิดเผยกับ  เครื่องช่วยฟังราคาถูก   ต้นสมุนไพรตัวนี้ซึ่งในวันนี้สิ่งที่เราพูดถึงเป็นเรื่องงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกา เกี่ยวข้องกับสมุนไพรไทยที่มีความเชื่อกันว่าสามารถรักษา covid 19 ได้  ซึ่งจะมีความน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน  ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับพืชสมุนไพรไทยตัวนี้กัน

แน่นอนว่าหลังจากที่มีการแพร่ระบาด  ของเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือว่า covid-19 ตั้งแต่ปลายปี 2019 มาจนถึงยุคปัจจุบันนี้  ทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่างก็เร่งหาวิธี

  การป้องกันออกมาตรการต่างๆและในทางวิทยาศาสตร์ในการพัฒนาวัคซีน หรือแม้แต่หายามาใช้ในการรักษาด้วยเช่นเดียวกัน  ซึ่งในวันนี้เรา จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกัน มันเกี่ยวข้องกับสมุนไพรไทย ที่มีงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกาออกมา และระบุว่าสมุนไพรไทยดังกล่าวนี้  มันสามารถรักษาโรค covid-19 ได้

ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องราวต่างๆที่มีความน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน  เราจะมาพูดถึงเกี่ยวกับมัน โดยมหาวิทยาลัยโคลัมเบียและมหาวิทยาลัยวอชิงตัน พบว่า  โกศจุฬาลัมพา สมุนไพรที่หมอพื้นบ้านไทยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย  รู้จักดีสามารถต้านเชื้อโควิดได้ในห้องปฏิบัติการ โดยสารสกัดรวมในน้ำร้อนและใบแห้งของโกศจุฬาลัมพา โดยเลือกต้นที่มีอายุมากกว่า 10 ปี

พบว่ามีประสิทธิภาพสูงในการยับยั้งเชื้อโควิค ทั้งสายพันธุ์เบต้าและอัลฟ่า แน่นอนว่านอกจากสมุนไพรไทย ที่เราเรียกว่าโกศจุฬาลัมพา  ที่ได้มีการวิจัยออกมาแล้วว่า  สามารถต้าน covid 19 ได้หรือว่ารักษาคนได้   ก็ยังมีสมุนไพรตัวอื่นอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นฟ้าทะลายโจร  ที่เรานั้นใช้กันอยู่เป็นประจำในการรักษา 

ซึ่งแน่นอนว่า covid 19  นั้นมีความน่ากลัวเป็นอย่างมาก  ถึงแม้ในยุคปัจจุบันนี้เราจะได้มีการรับวัคซีนกันแล้ว แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่มีทางติด covid-19 ได้  ยอดผู้ติดเชื้อก็มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเป็นจำนวนมากด้วยเช่นเดียวกันในแต่ละวัน  ในบางครั้งเราเองก็ไม่สามารถไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลได้  

อาการของเราไม่หนักมากนัก เราก็จำเป็นที่ต้องรักษาตนเองอยู่ที่บ้านแบบ Home isolation ที่ใครหลายคนต่าง ก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี  และแน่นอนว่าการรักษาตัวแบบ Home isolation เราก็จำเป็นที่จะต้องเฝ้าดูอาการว่ามันบรรเทาลงหรือเปล่าหลังจากการได้รับยาหรือว่ามีความรุนแรงขึ้นจากเดิม 

bookmark_border3 พฤติกรรมที่ทำให้น้าแก่ก่อนวัย

สมัยปัจจุบันนี้ นอกจากการดูแลสุขภาพร่างกายจะเป็นสิ่งสำคัญที่สาว ๆ ส่วนใหญ่ไม่มองข้ามกันแล้ว แต่ยังมีการดูแลรักาสุขภาพผิว ที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สาว ๆ

ส่วนใหญ่หันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลผิวหน้า ซึ่งต้องบอกก่อนว่า การที่ผู้หญิงอย่างเรานั้นมีผิวพรรณที่สวยสุขภาพดี รวมไปถึงการมีผิวหน้าที่ดูเด็ก ถือเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้สาว ๆ มีความมั่นใจในการใช้ชีวิตกันมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพในการใช้ชีวิตให้แก่สาว ๆ ส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ดังนั้น ในสมัยปัจจุบันนี้เราจะเห็นได้ว่า สาว ๆ ส่วนใหญ่มักที่จะมองว่าวิธีการดูแลผิวหน้าของตนเองให้กลับมาดูดี และดูอ่อนกว่าวัย

ซึ่งสมัยนี้การที่เราจะมีผิวหน้าที่อ่อนกว่าวัยนั้น สามารถทำได้หลากหลายวีที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นทั้งในส่วนของการเลือกรับประทานอาหาร การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการดื่มน้ำเยอะ ๆ ก็มีส่วนช่วยในการดูแลผิวของเราได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับสาว ๆ คนไหนที่อยากมีผิวหน้าที่ดูเด็ก ดูอ่อนกว่าวัย

วันนี้เราก็จะมาบอกสาว ๆ ทุกคนกันว่า หากเราหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบตผิว ก็สามารถทำให้เรานั้นมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นได้ อีกทั้งยังสามารถทำให้ผิวของเรานั้นดุอ่อนกว่าวัยได้อีกด้วย จะมีพฤติกรรมไหนกันบ้างที่เราควรหลีกเลี่ยงไปดูกันเลย 

  • พฤติกรรมการเคี้ยวหมากฝรั่ง

พฤติกรรมที่ทำให้น้าแก่ก่อนวัย รู้หรือไม่ว่าการที่เราเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นปะจำ หรือบ่อย ๆ นั้น จะยิ่งทำให้ผิวหน้าของเราเกิดริ้วรอยได้ง่ายมากขึ้น เพราะการที่เราเคี้ยวหมากฝรั่งอย่างน้อยวันละ 5 นาที ก็จะทำให้ผิวบริเวณริมฝีปากของเรามีริ้วรอยได้ ฉะนั้น สำหรัยสาว ๆ คนไหนที่ชอบการเคี้ยวหมากฝรั่งก็ให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวนี้ทันที เพราะถึงแม้ว่าหมาฝรั่งจะสามารถช่วยทำให้เราหายง่วงได้ก็ตาม แต่หากอยากมีผิวหน้าที่ดุอ่อนกว่าวัย แนะนำให้หลีกเลี่ยงการเคี้ยวหมากฝรั่งนี้

  • การนอดึก หรือกินตอนดึก

พฤติกรรามดังกล่าว เรียดได้ว่าเป็นพฤติกรรมที่สาว ๆ ส่วนใหญ่นั้นชอบทำกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใครที่ชอบนอนดึก ๆ แล้วรู้สึกหิวก้มักที่จะลุกขึ้นมาทานอาหาร หรือกินขนมจุกจิกอยู่บ่อย ๆ ซึ่งรู้หรือไม่ว่านอจากการนอนดึกจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกายของเราแล้วนั้น การนอนดึก หรือการกินมื้อดึก ยังอาจทำให้ร่างกายของเรานั้นหลั่งฮอร์โมนที่เรียกว่าฮอร์โมนความแก่ออกมา ซึ่งก็จะยิ่งทำให้ร่างกายของเรานั้นมีฮอร์โมนที่ไม่เจริญเติบโต จนส่งผลให้ผิวของเรามีริ้วรอยได้ง่าย และทำให้หน้าแก่ได้นั่นเอง 

  • การปล่อยให้ผิวแห้ง

แน่นอนว่าการที่สาว ๆ ปล่อยละเลยการดูแลสุขภาพผิว เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เราปล่อยให้ผิวแห้ง ซึ่งการที่เรามีผิวที่แห้งกร้านเกินไป ก็อาจเกิดขึ้นได้หลากหลายสาเหตุเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การที่เรานั่งตากอร์นานเกินไป หรือบางคนอาจชอบการอาบน้ำอุ่นมากเกินไป จนส่งผลให้ผิวแห้งนั่นเอง ซึ่งการที่เรามีผิวที่แห้ง รู้หรือไม่ว่าจะยิ่งทำให้ชั้นผิวของเราเกิดเป็นขุย และเหมือผิวของเราถูการเสียดสี ก็จะทำให้ผิวของเราเกิดการอักเสบและเป้นรอยได้ง่าย

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟังราคาถูก

bookmark_border3 พฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย

พฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย คนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ มักที่จะมีพฤติกรรมการปล่อยละเลยการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง เพราะการใช้ชีวิตในสมัยปัจจุบันนี้ ส่งผลให้บางคนจำเป็นที่จะต้องปล่อยละเลยการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง เพราะต้องเอาร่างกายได้ไปเต็มที่กับการทำงาน การเรียน หรือแม้แต่เรื่องจำเป็นอื่น ๆ เองก็ตา

ซึ่งรู้หรือไม่ว่า ไม่ว่าเราจะทำงานหนัก หรือทำอะไรหนักมากแค่ไหนก็ตาม การดูแลสุขภาพร่างกายก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะหากเรามีสุขภาพร่างกายที่ไม่ดี ก็อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในประจำวันของเราได้ อีกทั้งยังอาจทำให้ร่างกายของเรานั้นอ่อนแอ และเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย

ดังนั้น การดูแลสุขภาพร่างกานของตนเองให้ดี จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เรามาควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การออกกำลังกาเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ การเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงการใช้ชีวิตให้มีความสุข ไม่เครียด ก็สามารถเสริมสร้างความแข็งแรง และทำให้การใช้ชีวิตของเรานั้นเต็มไปด้วยประสิทธิภาพมากขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าตนเองนั้นก็อาจมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการทำลายสุขภาพร่างกายของตนเอง ซึ่งวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า จะมีพฤติกรรมไหนบ้างที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย เผื่อว่าจะทำให้หลาย ๆ คนนั้นหันมาใส่ใจ และดูแลร่างกายมากขึ้น ไปดูกันเลย 

  • การยืน

พฤติกรรมนี้ เรียกได้ว่าเป็นพฤติกรรมที่หลาย ๆ คนไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ แต่รู้หรือไม่ว่าการยืน ก็ถือเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่เป็นตัวทำลายสุขภาพร่างกายของเราได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเรามีพฤติกรรมการยืนนานจนเกินไป เพราะการยืนนาน ๆ จะยิ่งทำให้เรานั้นมีอาการปวดเข่า ปวดหลัง รวมไปจนถึงอาการปวดเมื่อยตามร่างกายได้อีกด้วย อีกทั้งยังอาจทำให้ร่างกายของเรานั้นได้รับความเสี่ยงต่อการทำลายสุขภาพร่างกายทางอ้อมอีกด้วย 

  • การหิ้วของ

เชื่อว่าสาว ๆ ส่วนใหญ่ในสมัยนี้ชื่นชอบการช้อปปิ้งกันเป็นอย่างมาก รู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมการหิ้วของเยอะเกินไป ก็ถือเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่อาจทำลายสุขภาพร่างกายของเราได้ เพราะการที่เราหิ้วของหนักบ่อย ๆ นั้น อาจทำให้พังผืดยึดตามข้อนิ้วของเราได้ เพราะเนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณมือนั้น เป็นกล้ามเนื้อมัดเล็ก จึงไม้สามารถใช้งานได้หนัก หากจะต้องหยิบจับอะไรที่มันหนักจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหิ้วของ ก็อาจเป็นการทำลายสุขภาพของเราได้นั่นเอง 

  • การนั่ง

เนื่องจากคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ ใช้ชีวิตเต็มที่ไปกับการทำงาน และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน โดยไม่สามารถลุกไปไหนได้ ซึ่งรู้หรือไม่ว่า การที่เรานั่งทำงานนานเกินไปนั้น นอกจากจะทำให้ร่างกายของเราได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้อีกด้วย ยิ่งถ้าใครนั่งผิดท่า ก็จะยิ่งมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายได้ง่าย ทั้งยังทำให้เป็นโรคหมอนรองกระดูกสันหลังได้อีกด้วย 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังราคาถูก