ความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับทุเรียน ที่ให้ผลเสียต่อร่างกาย 

         ทุเรียนเป็นผลไม้ของไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างประเทศนั้นจะชื่นชอบการทานทุเรียนกันมากเป็นทีเดียวโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากหน้าทุเรียนออกแล้วเราก็จะมีการส่งไปขายยางทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศจีนนี้เป็นประเทศที่รับซื้อทุเรียนจากไทยเยอะมากที่สุดเพราะคนจีนนั้นชอบทานทุเรียนมากถึงแม้ว่ากลิ่นของทุเรียนนั้นจะค่อนข้างรุนแรงไปนิดแต่รสชาติมันอร่อยถูกปากคนกินอย่างแน่นอน

         อย่างไรก็ตามเรารู้กันดีว่าเมื่อมีการกินทุเรียนมากเกินไปนั้นมันจะส่งผลต่อร่างกายของเราทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วทุเรียนนั้นมีสารอาหารหลายอย่างที่ส่งผลดีต่อร่างกายแต่อะไรก็ตามที่เราคิดมากเกินไปมันก็อาจจะทำให้มีปัญหาต่อร่างกายของเราได้เช่นเดียวกันซึ่งหลายคนจะมีอคติต่อทุเรียนดังนั้นเราจะมาดูกันว่าความเชื่อต่างๆที่คนเราเชื่อเกี่ยวกับทุเรียนนั้นมีความเชื่อไหนที่ไม่ถูกต้อง

      หลายคนเชื่อกันว่าทุเรียนนั้นมีคอเลสเตอรอลสูงทำให้คนส่วนใหญ่พี่ต้องการจะควบคุมน้ำหนักนั้นไม่กล้ากินทุเรียนรวมถึงคนที่มีปัญหาคอเลสเตอรอลสูงนั้นก็ไม่กล้าที่จะกินทุเรียนแต่ในความเป็นจริงแล้วคุณรู้หรือไม่ว่าในตัวทุเรียนเองนั้น คอเลสเตอรอล   หรืออาจกล่าวได้ว่า มีเป็นศูนย์เลยก็ว่าได้  

           เพราะในความเป็นจริงแล้วคอเลสเตอรอลนั้นเราจะพบในอาหารประเภทเนื้อสัตว์เครื่องในอาหารทะเลหรืออาหารที่ทำมาจากนมแต่ทุเรียนนั้นเป็นผลไม้และมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวดังนั้นจึงไม่มีคลอเรสเตอรอลอยู่ในทุเรียนนั่นเองที่สำคัญการกินทุเรียนนั้นมันสามารถไปช่วยลดคอเลสเตอรอลให้คุณได้อีกด้วย

          มีความเชื่อเกี่ยวกับการกินทุเรียนกับยาลดไข้พร้อมกันแล้วจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นดังนั้นเวลาคนเป็นไข้จึงมีการห้ามให้คนไข้นั้นกินทุเรียนเพราะคนไข้นั้นจะต้องมีการกินยาลดไข้  ซึ่งคนโบราณนั้นมักมองว่าทุเรียนนั้นมีฤทธิ์ที่ให้ความร้อนเมื่อกินเข้าไปแล้วผสมกับอาการที่เป็นไข้อยู่แล้วร่างกายมีความร้อนอยู่แล้วดังนั้นเมื่อกินทุเรียนเข้าไปก็จะยิ่งทำให้มีอาการไข้มากขึ้นหรือตัวร้อนมากขึ้น

    เพราะฉะนั้นคนโบราณจึงมักห้ามคนป่วยกินทุเรียนนั่นเองแต่ในความเป็นจริงแล้วมีการทำการวิจัยออกมาแล้วพบว่าการที่ผู้ป่วยที่กินยาลดไข้แล้วกินทุเรียนตามไปด้วยนั้นมันจะไม่ส่งผลทำให้อุณหภูมิในร่างกายร้อนขึ้นแต่กลับส่งผลต่อการข้ามกันเพราะมันจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายต่ำลง  แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้เราจะมีการทำการวิจัยออกมายืนยันแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถล้มความเชื่อของคนได้อยู่ดี 

 

สนับสนุนโดย  แทงหวย