bookmark_borderการกินหมูดิบเสี่ยงเป็นโรคหูดับ: อาการและผลกระทบ

การบริโภคหมูดิบหรือหมูที่ไม่สุกอย่างเพียงพอเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หนึ่งในโรคที่อาจเกิดขึ้นจากการบริโภคหมูดิบคือ “โรคหูดับ” ซึ่งมีชื่อทางการแพทย์ว่า Streptococcus suis ซึ่งเป็นการติดเชื้อจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า Streptococcus suis (S. suis)

 

suis เป็นแบคทีเรียที่พบได้ในหมูทั้งในรูปแบบของการเป็นพาหะและการติดเชื้อ

เมื่อเรารับประทานหมูดิบที่มีเชื้อ S. suis ปนเปื้อน เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายและทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบต่างๆ ซึ่งอาจลามไปสู่เยื่อหุ้มสมอง ทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อในหู ส่งผลให้เกิดการสูญเสียการได้ยินอย่างถาวรในบางกรณี

อาการของโรคหูดับที่เกิดจากการติดเชื้อ S. suis มักเกิดขึ้นในระยะเวลาไม่นานหลังจากการติดเชื้อ อาการเบื้องต้นมักจะเป็นอาการไข้สูง ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และปวดตามกล้ามเนื้อ เมื่อเชื้อเข้าสู่ระบบหู จะทำให้เกิดการอักเสบของหูชั้นใน ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหู สูญเสียการได้ยิน หรือหูอื้อ หากไม่รักษาทันเวลา อาการเหล่านี้อาจรุนแรงขึ้นและนำไปสู่การสูญเสียการได้ยินถาวร หรือแม้กระทั่งเสียชีวิตในบางกรณี

การติดเชื้อ S. suis มีความเสี่ยงสูงในผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว การสูญเสียการได้ยินที่เกิดขึ้นจากโรคนี้อาจเป็นถาวร และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก นอกจากนี้ การติดเชื้อยังอาจลามไปยังระบบประสาทและสมอง ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น การติดเชื้อในสมองและเยื่อหุ้มสมอง การติดเชื้อในกระดูก และการติดเชื้อในหัวใจ

การป้องกันที่ดีที่สุดคือ  ประสิทธิภาพการได้ยิน    การหลีกเลี่ยงการบริโภคหมูดิบหรือหมูที่ไม่สุกอย่างเพียงพอ ควรปรุงอาหารให้สุกเต็มที่เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย S. suis และควรระมัดระวังในการจัดการกับหมูดิบ โดยล้างมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำอาหารให้สะอาดหลังจากสัมผัสหมูดิบ การรับประทานอาหารในร้านอาหารที่มีมาตรฐานสุขอนามัยสูงก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยง

หากมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ หรือติดเชื้อที่หูหลังจากการบริโภคหมูดิบ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาโดยด่วน การรักษาโรคหูดับที่เกิดจากการติดเชื้อ S. suis ส่วนใหญ่จะใช้ยาปฏิชีวนะในการควบคุมการติดเชื้อ แต่ในบางกรณีที่รุนแรงอาจต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล และต้องมีการตรวจติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

การบริโภคอาหารที่ปลอดภัยและสุกเต็มที่เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันโรคร้ายแรง เช่น โรคหูดับจากการติดเชื้อ S. suis ดังนั้น ควรให้ความสำคัญกับการปรุงอาหารและการรักษาสุขอนามัยในการบริโภคอาหารทุกครั้งเพื่อสุขภาพที่ดีและป้องกันโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

bookmark_borderการเลือกซื้ออุปกรณ์ตกปลา วิธีการเลือกชุดตีเหยื่อปลอม

สำหรับนักตกปลามือใหม่ แต่ไม่รู้จะจัดชุดตกปลาแบบไหน โดยจะต้องใช้คันเวทเท่าไหร่ รอกแบบไหน โดยในวันนี้เราจะมาแนะนำถึงการจัดชุดตีเหยื่อปลอม พร้อมทั้งเราจะอธิบาย อย่างละเอียด เพื่อให้นักตกปลามือใหม่ ได้เข้าใจ และสามารถเลือกซื้อได้ถูกต้องและเหมาะสม จะได้ไม่ต้องซื้อไปทิ้งขว้าง สามารถนำไปใช้งานได้จริง และรู้หลักการเลือกซื้ออย่างถูกต้อง โดยวิธีการเลือกจะแบ่งเป็นข้อๆตามนี้

1.งบประมาณในการเลือกซื้อ

 สิ่งสำคัญเป็นอันดับแรกของนักตกปลาทั่วไป จะต้องมีงบประมาณตั้งขึ้นมาก่อน งบที่นี้ก็คือเงินแหละคะ โดยถ้าคุณมีงบราคาไม่เกิน 1,000 บาท หรือจะงบ 2,000 กว่า แล้วแต่กำลัง มันก็ตามเกรดของคันเบ็ด โดยงบไม่ถึงพันมันก็ถือว่าโอเคในราคานี้ก็ไม่เลวถือว่าใช้ได้ หรือว่างบพันกว่าบาทก็ดีขึ้นมาหน่อย

แต่ถ้ามีงบเยอะตั้งแต่สองพันกว่าขึ้นไปมันก็ดีขึ้นไปอีกตามลำดับของงบที่คุณมี ดังนั้นงบที่มีจึงสำคัญถือได้ว่าเป็นสิ่งแรกที่จะต้องเตรียมให้พร้อม แต่ก็ไม่ได้ว่างบหลักพันนะ เพราะถือว่ามันก็ใช้ได้ หรือถ้าคนเล่นเป็นก็สามารถตกปลาได้เยอะเลยแหละ

 

2.ประเภทปลาที่ตก

 คุณจะต้องเลือกคันเบ็ดให้เข้ากับประเภทของปลาเสียก่อน เพราะว่าคุณจำเป็นต้องรู้ว่าคุณนั้นจะไปตกปลาอะไร และประเภทปลาเป็นแบบไหนบ้าง จะเป็นคันเบทหรือว่าคันสปิน เพราะถ้าเราเลือกปลาได้ถูกเราก็จะเลือกคันเบ็ดได้เหมาะสม โดยจะเอาไปใช้กับรอกหยดน้ำ

หรือว่าจะนำไปใช้กับรอกตีเหยื่อปลอมทั่วไป โดยถ้าคุณสามารถที่จะเลือกปลาประเภทไหน ปลาช่อน ปลากะพง ปลาชะโด เป็นต้น ปลาพวกเนี้ย ก็จะมีเบ็ดที่มีขนาดของมันเช่นกัน

 

3.เลือกเหงื่อที่ใช้ และการเลือกสาย PE ที่จะไปตกปลา

 พอเรารู้ว่าคุณเลือกที่จะตกปลาประเภทไหน ต่อไปคุณก็ต้องมาเลือกเหยื่อที่จะใช้กับเวทคัทเบ็ด โดยไม่ว่าจะเป็นคันสปิน หรือคันเบท หรือการเลือกทั่วๆไป โดยปลาที่มีขนาดตัวใหญ่ทั่วๆไป ก็จะมีประมาณเวท 6-12 นี่คือเวทคัน ถือว่าเลือกได้ใกล้เคียง

ถ้าหากเราจะใช้เป็นเหยื่อเบาก้านจะอ่อนหน่อย เวทเหนือขึ้นมานิดก็จะมีเวท 8-16 และ 8-17 ประมาณนี้ที่เอาไว้ใช้สำหรับตีปลาช่อน ถือว่าใช้ได้ดีเลยนะ หรือว่าถ้าคุณจะตกปลากะพง ที่น้ำหนัก 1-3 กิโลถือว่าได้เลย และก็อีกเวทนึงก็คือเวทของคัน 10-20 คันมันจะแข็งขึ้น จะทำให้น้ำหนักของเหยื่อใหญ่ขึ้น เหมาะสำหรับตกปลาชะโดหรือเป็นกะพงไซส์ใหญ่ 7-8 กิโลขึ้น ไปจนถึง 10กว่ากิโล สามารถนำไปเล่นได้เช่นกัน

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    คาสิโนดานัง

bookmark_borderวิธีกำจัดหนู โดยใช้สารที่มีกลิ่นเหม็น 

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งไปมาอยู่บนหลังคาหรือบางครั้งอาจจะได้ยินเสียงร้องจี๊ดๆอยู่บนฝ้าเพดานบ้าน  ซึ่งแน่นอนว่าเสียงนั้นต้องเป็นเสียงของหนูอย่างแน่นอนแต่มันไม่ได้สร้างความรำคาญให้กับเราเฉพาะเสียงร้องและเสียงวิ่งเท่านั้น  แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้าบ้านไหนมีหนูมันมักจะมากัดทำลายข้าวของภายในบ้านให้เกิดความเสียหาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหามากัดสายไฟก็จะทำให้ไฟฟ้าช็อตและอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านก็จะได้รับความเสียหายไปด้วย

ดังนั้นเชื่อว่าทุกคนนั้นคงจะไม่ชอบหนูกันอย่างแน่นอนในบทความนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีการดีๆที่จะใช้ในการกำจัดหนูมาดูว่าเราจะสามารถใช้วิธีการไหนได้บ้างที่จะขับไล่มันออกจากบ้านไม่ให้มันอาศัยอยู่ในบ้านของเรา 

น้ำมันก๊าด   เชื่อว่าหลายคนคง รู้จักน้ำมันก๊าดและอาจจะเคยใช้ประโยชน์จากน้ำมันก๊าดมาก่อนโดยน้ำมันก๊าดนั้นจะมีลักษณะของน้ำที่มีกลิ่นฉุนเรียกได้ว่าเป็นกลิ่นฉุนที่มีความรุนแรงเป็นอย่างมากเพราะแม้แต่คนที่ได้ยินได้กลิ่นน้ำมันก๊าดนั้นก็ไม่ชอบเช่นเดียวกันซึ่งถ้าหากว่ามีกลิ่นน้ำมันก๊าซมาเข้าจมูกของเรานั้นเราก็จะรู้สึกวิงเวียนศีรษะ

ดังนั้นเมื่อคนยังได้รับผลกระทบต่อกลิ่นของน้ำมันก๊าดที่มีความฉุนอย่างรุนแรงแล้วนับประสาอะไรกับหนูตัวเล็กๆเพราะถ้าหากว่ามันได้กลิ่นของน้ำมันก๊าดมันก็ไม่สามารถที่จะทนความฉุนของกลิ่นน้ำมันก๊าซได้เช่นเดียวกัน

ดังนั้นถ้าหากว่าเราต้องการขับไล่หนูออกจากบ้านของเราเพียงแค่เราเทน้ำมันก๊าดไปใส่ถ้วยแล้วนำไปวางไว้ใกล้ๆกับรังของมันหรือตรงจุดที่เราคิดว่ามันจะต้องเดินผ่านมาแน่นอนรับรองได้เลยว่าเมื่อหนูได้กินน้ำมันก๊าซมันจะต้องเผ่นหนี

อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าน้ำมันก๊าซนั้นไม่ใช่เพียงแค่กลิ่นเหม็นเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังอันตรายอีกด้วยดังนั้นควรจะต้องระมัดระวังวางไว้ให้ห่างจากมือเด็กหรือให้ห่างจากไฟเพราะถ้าหากว่าติดไฟไฟอาจจะลุกไหม้บ้านเราได้ 

ลูกเหม็น   หากเราอยากจะกำจัดหนูแต่เราไม่อยากที่จะใช้น้ำมันก๊าดเพราะมันกลิ่นเหม็นมากจนเกินไปแล้วมันอันตรายด้วยนั้นเราเปลี่ยนมาใช้ลูกเหม็นก็ได้เช่นเดียวกันเพราะลูกเหม็นเองก็มีกลิ่นที่ฉุนมากเช่นเดียวกันแต่ว่าจะไม่เท่ากับน้ำมันก๊าด

แต่แน่นอนว่าเมื่อหนูได้กลิ่นของลูกเหม็นนั้นมันก็ไม่พึงพอใจเช่นเดียวกันดังนั้นถ้าหากว่าเรานำลูกเหม็นไปวางไว้ตามจุดต่างๆตามมุมต่างๆที่คาดว่าหนูมันจะวิ่งผ่านเช่นไกลกับถังขยะหรือแม้แต่ส่วนต่างๆในครัวหรือตามมุมต่างๆในบ้านรับรองได้ว่าถ้ามันได้กลิ่นของลูกเหม็นเมื่อไหร่มันจะต้องหนีออกจากบ้านของคุณเช่นกัน

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    สุขภาพหู

bookmark_borderกลไกการเกิดไขมันในร่างกาย

ไขมันในร่างกาย (Fat) เป็นองค์ประกอบสำคัญของร่างกายมนุษย์ มีบทบาทหลายด้านตั้งแต่การเก็บพลังงาน ปกป้องอวัยวะภายใน และเป็นส่วนประกอบของโครงสร้างเซลล์และเยื่อหุ้มเซลล์ การเกิดไขมันในร่างกายเกิดขึ้นผ่านกระบวนการทางชีวเคมีหลายขั้นตอน โดย  คาสิโนเวียดนาม    สามารถอธิบายกลไกการเกิดไขมันได้ดังนี้:

  1. การบริโภคและการย่อยสลาย

การเกิดไขมันเริ่มต้นจากการบริโภคอาหารที่มีพลังงานส่วนเกิน (excess calories) เมื่อร่างกายได้รับพลังงานจากอาหาร เช่น คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน มากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ พลังงานส่วนเกินเหล่านี้จะถูกแปลงเป็นไขมันผ่านกระบวนการต่าง ๆ ในร่างกาย 

  1. การแปลงพลังงานเป็นไขมัน (Lipogenesis)

หลังจากที่ร่างกายย่อยสลายคาร์โบไฮเดรตไปเป็นกลูโคส กลูโคสที่ไม่ได้ถูกใช้จะถูกเปลี่ยนเป็นไกลโคเจนและเก็บไว้ในกล้ามเนื้อและตับ แต่หากมีปริมาณกลูโคสมากเกินไป ร่างกายจะเริ่มกระบวนการที่เรียกว่า “ลิโพเจเนซิส” (Lipogenesis) ซึ่งเป็นกระบวนการแปลงกลูโคสส่วนเกินไปเป็นกรดไขมัน (Fatty Acids)

กรดไขมันที่สร้างขึ้นจากลิโพเจเนซิสจะถูกเอสเตอร์ฟิเคชั่น (Esterification) กับกลีเซอรอล (Glycerol) ทำให้เกิดไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) ซึ่งเป็นรูปแบบหลักของไขมันที่เก็บไว้ในร่างกาย ไตรกลีเซอไรด์จะถูกส่งไปเก็บในเนื้อเยื่อไขมัน (Adipose Tissue) ซึ่งส่วนใหญ่พบในบริเวณใต้ผิวหนัง (subcutaneous fat) และรอบ ๆ อวัยวะภายใน (visceral fat)

  1. การสะสมไขมันในเนื้อเยื่อไขมัน

เนื้อเยื่อไขมันเป็นที่ที่ร่างกายเก็บไตรกลีเซอไรด์ในเซลล์ไขมัน (Adipocytes) เซลล์ไขมันสามารถขยายขนาดขึ้นเพื่อเก็บไขมันได้มากขึ้น นอกจากนี้ เมื่อร่างกายต้องการพลังงาน ไขมันที่สะสมในเซลล์ไขมันจะถูกปล่อยออกมาในรูปของกรดไขมันอิสระ (Free Fatty Acids) ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “ไลโปลิซิส” (Lipolysis) เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงาน

  1. การควบคุมการเกิดไขมัน

การเกิดไขมันและการสะสมไขมันในร่างกายถูกควบคุมโดยฮอร์โมนหลายชนิด โดยเฉพาะอินซูลิน (Insulin) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งสัญญาณให้เซลล์ดูดซับกลูโคสและเก็บไว้เป็นไกลโคเจนหรือเปลี่ยนเป็นไขมัน นอกจากนี้ ฮอร์โมนเช่น เลปติน (Leptin) และเกรลิน (Ghrelin) ยังมีบทบาทในการควบคุมความหิวและการบริโภคอาหารอีกด้วย

  1. ผลกระทบของการสะสมไขมันมากเกินไป

การสะสมไขมันในร่างกายมากเกินไปอาจนำไปสู่ภาวะอ้วน (Obesity) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคไขมันพอกตับ นอกจากนี้ การสะสมไขมันในบริเวณอวัยวะภายในหรือไขมันวิสเซอรัล (Visceral Fat) ยังเป็นอันตรายมากขึ้นเนื่องจากเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นของโรคเหล่านี้

กลไกการเกิดไขมันในร่างกายเป็นผลจากการบริโภคพลังงานเกินกว่าความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพลังงานส่วนเกินนั้นให้เป็นไขมันผ่านกระบวนการลิโพเจเนซิส และการสะสมไขมันในเนื้อเยื่อไขมัน การควบคุมการเกิดไขมันถูกกำหนดโดยฮอร์โมนหลายชนิดที่มีบทบาทในการควบคุมความหิวและการสะสมไขมัน การสะสมไขมันมากเกินไปอาจนำไปสู่โรคอ้วนและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ

bookmark_borderรู้หรือไม่ ทำไมผู้หญิง 40 อัพถึงกลายเป็นคนขี้บ่นขี้หงุดหงิด 

เชื่อว่าหลายคนที่มีคุณแม่อายุเกิน 40 ปีขึ้นไปมักจะต้องเจอกับภาวะอารมณ์ของคุณแม่ที่มักจะเป็นคนที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวและขี้หงุดหงิดง่ายอยู่เสมอจากคุณแม่ที่น่ารักดูแลเราอย่างดีในช่วงวัยเด็กกลายมาเป็นคนที่ขี้บ่นมาก  ซึ่งเชื่อว่าหลายคนอาจจะเกิดความสงสัยว่าทำไมผู้หญิงวัย 40 อัพขึ้นไปถึงมีสภาวะอารมณ์เช่นนี้ซึ่งในบทความนี้เราจะมาชี้แจงเกี่ยวกับสภาวะอารมณ์ของผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไปให้ทราบกัน

สำหรับผู้หญิงที่มีอายุสูงเกิน 40 ปีขึ้นไปนั้นจะเข้าสู่ในวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของสภาวะร่างกายโดยมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างทั้งร่างกายและทางจิตใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของภาวะร่างกายที่คนอายุ 40 ปีขึ้นไปเพศหญิงนั้นจะมีการหมดประจำเดือนหรือที่เราเรียกกันว่าเข้าสู่ภาวะวัยทองนั่นเอง ซึ่งผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้ว

จะเริ่มมีอารมณ์ที่แตกต่างจากคนที่มีประจำเดือนเพราะจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของอารมณ์และจิตใจรวมถึงร่างกายอย่างเห็นได้ชัดทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวนดังนั้นเราจึงเรียกคนกลุ่มนี้ว่าผู้หญิงวัยทอง 

สำหรับสาเหตุที่สำคัญที่หลังจากหมดประจำเดือนแล้วทำให้ผู้หญิงวัยทองมีอารมณ์ที่แปรปรวนเป็นคนขี้หงุดหงิดง่ายนั่นก็เพราะว่าระดับฮอร์โมนในสมองของผู้หญิงวัยนี้นั้นลดต่ำลงซึ่งก็คือฮอร์โมนเซโรโทนิน

  โดยฮอร์โมนชนิดนี้คุณสมบัตินั้นจะช่วยในเรื่องของการควบคุมทางด้านอารมณ์และการแสดงออกรวมถึงความรู้สึกของคนดังนั้นเมื่อฮอร์โมนชนิดนี้ลดลงก็จะทำให้ไม่สามารถที่จะควบคุมอารมณ์ได้และทำให้มีอารมณ์ปรวนแปรได้นั่นเอง

สำหรับใครที่กำลังจะอยู่ในวัยทองนั้นจะสังเกตเห็นได้ว่าประจำเดือนที่เคยมาเยอะในแต่ละเดือนนั้นก็จะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ

และหมดไปในที่สุดในขณะเดียวกันก็จะมีอาการวูบๆวาบๆมีอาการร้อนตามร่างกายบางครั้งก็มีอาการหลงลืมง่ายและที่สำคัญมักจะนอนไม่ค่อยหลับทำให้มีความหงุดหงิดบ่อยๆเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอนั่นเอง 

อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าผู้หญิง 40 ปีขึ้นไปที่อยู่ในช่วงวัยทองแล้วจะไม่สามารถควบคุมตนเองได้เพราะหากว่าดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีก็จะสามารถแก้ไขปัญหาอาการวัยทองได้เช่นเดียวกันซึ่งวิธีการนั้นก็ไม่ใช่วิธีการที่ยากเย็นอะไรเพียงแค่ดูแลเรื่องของอาหารการกินโดยให้สาววัยทองนั้นกินอาหารที่เน้นโปรตีนไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์หรือนมหรือถั่วเหลืองปลาหรือเต้าหู้เป็นต้น

เพราะสารอาหารต่างๆเหล่านี้จะไปช่วยเพิ่มการหลั่งของฮอร์โมนซีโรโทนินได้  นอกจากนี้ควรจะทานอาหารประเภททานยาพืชหรือสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่ดีแล้วควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว พยายามนอนให้พอวันละ 6-8 ชั่วโมงหากทำแบบนี้เป็นประจำทุกวันได้ก็จะช่วยลดอาการวัยทองได้เช่นกัน 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่

bookmark_borderเลือกช้อปปิ้งผ่านทางออนไลน์ อย่างไรไม่ให้โดนโกง

การเลือกช้อปปิ้งออนไลน์อาจเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดเวลา แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจเจอกับการโกงหรือปัญหาต่างๆ ดังนั้นนี่คือบางเคล็ดลับที่สามารถช่วยป้องกันการโดนโกงในการช้อปปิ้งออนไลน์

1.ศึกษาข้อมูลร้านค้า: ตรวจสอบรีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้งานที่เคยซื้อสินค้าจากร้านนั้นๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เว็บไซต์รีวิวหรือแพลตฟอร์มอื่นๆ เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้าได้ด้วย

2.เช็คข้อมูลทางการเงิน: หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลบัตรเครดิตหรือข้อมูลทางการเงินที่ไม่จำเป็นในระหว่างการช้อปปิ้ง ใช้วิธีการชำระเงินที่ปลอดภัย เช่น PayPal หรือบัตรเครดิตที่มีระบบความปลอดภัย

3.ตรวจสอบเว็บไซต์: ใช้แบรว์เซอร์ที่มีความปลอดภัย เช่น Google Chrome หรือ Firefox ซึ่งมีระบบป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ ตรวจสอบ URL ของเว็บไซต์ว่ามี “https://” หรือไม่ เพื่อความปลอดภัยในการส่งข้อมูล

4.อ่านเงื่อนไขและนโยบาย: อ่านเงื่อนไขการขายและนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์ ให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจและยอมรับข้อตกลงทั้งหมด

5.ตรวจสอบการติดต่อ: ตรวจสอบข้อมูลการติดต่อของร้านค้า เช่น ที่อยู่ทางไปรษณีย์, อีเมล, และหมายเลขโทรศัพท์ หากเป็นเรื่องสำคัญ ลองติดต่อร้านค้าก่อนทำการสั่งซื้อเพื่อทดสอบว่ามีการตอบกลับอย่างรวดเร็วหรือไม่

6.ใช้เว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ: หลีกเลี่ยงการช้อปปิ้งจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือหรือไม่คุ้นเคย

ถ้ามีการค้นพบข้อกล่าวหาหรือรายงานการโกงเกี่ยวกับเว็บไซต์ ควรหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมทางการเงิน

7.ใช้ระบบป้องกันไวรัสและมัลแวร์: ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและมัลแวร์ที่เชื่อถือได้บนอุปกรณ์ของคุณ

8.สังเกตการแจ้งเตือน: ตรวจสอบรายการการซื้อของคุณเพื่อตรวจสอบว่ามีการเกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดหรือไม่

การระมัดระวังเหล่านี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการโดนโกงในการช้อปปิ้งออนไลน์ได้

ควรระวังอะไรมากเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการซื้อของออนไลน์แล้วถูกโกง

การป้องกันการซื้อของออนไลน์และการเลือกช้อปปิ้งอย่างปลอดภัยควรใส่ใจกับปัจจัยหลายปัจจัยที่อาจเป็นพิเศษมากขึ้น นี่คือบางข้อที่ควรระวังเป็นพิเศษ

1.เว็บไซต์ปลอมและอีเมลปลอม: ระวังเว็บไซต์ปลอมที่มี URL คล้ายคลึงกับเว็บไซต์ที่คุณเชื่อถือ

อย่าคลิกที่ลิงก์จากอีเมลที่ไม่รู้จัก โปรดตรวจสอบความถูกต้องของอีเมลก่อนที่จะคลิก

2.ข้อตกลงและเงื่อนไขที่ไม่ชัดเจน: อ่านและเข้าใจข้อตกลงและเงื่อนไขการซื้อของร้านค้า ระวังการปิดตัวเองด้วยข้อความที่ไม่ชัดเจนหรือมีเงื่อนไขที่ไม่ปกติ

3.การจัดส่งที่ไม่ปลอดภัย: ตรวจสอบว่าร้านค้ามีระบบจัดส่งที่ปลอดภัยและมีการติดตามสินค้าคำนึงถึงค่าจัดส่งและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่อาจเพิ่มขึ้นในราคาทั้งหมด

4.การชำระเงินที่ไม่ปลอดภัย: หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลบัตรเครดิตหรือข้อมูลทางการเงินที่ไม่จำเป็น

ใช้วิธีการชำระเงินที่มีความปลอดภัย เช่น PayPal หรือบัตรเครดิตที่มีระบบความปลอดภัย

5.การหลอกลวงผ่านสื่อสังคมออนไลน์: ระวังการโพสต์หรือโฆษณาที่ดูดีเพื่อขอข้อมูลส่วนตัวหรือช่องทางการชำระเงิน อย่าคลิกที่ลิงก์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ

6.โปรโมชั่นที่ดูเหมือนจะเกินความจริง: ระวังโปรโมชั่นที่ดูน่านึกน่าจะถูกเกินความจริง เช่น ลดราคามากเกินไปหรือของแถมที่ดูมีมูลค่าสูง

7..การตรวจสอบรีวิว:อ่านรีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้งานที่เคยซื้อสินค้าจากร้านนั้น ระวังรีวิวที่ดูเท่านั้นหรือไม่ถูกต้อง

 

สนับสนุนโดย    ตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้ที่มีปัญหาหูตึง

bookmark_borderตระเตรียมบ้านให้พร้อมก่อนปีใหม่ที่จะมาถึง

ตระเตรียมบ้านให้พร้อมก่อนปีใหม่ที่จะมาถึง ใกล้ไปสู่ปีใหม่แบบนี้ ถึงเวลาที่จำต้องตกแต่งบ้านใหม่ให้มาพร้อมบรรยากาศที่ความสบายรับต้นปีที่จะมาถึง บางทีอาจไม่ต้องถึงขนาดโละเครื่องเรือนเก่าทิ้งจนกระทั่งหมดจด แต่เพียงเพียงแค่จัดวางให้เข้าที่เข้าทาง ก็พร้อมแปลงมุมบ้านเกิดเมืองนอนให้มองน่าอยู่มากยิ่งกว่าเดิม

ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ช่วงที่ความสำราญในตอนเทศกาลปีใหม่นี้ ทดลองตรวจสอบพื้นที่รอบบ้านของคุณให้ดีว่าพร้อมสำหรับในการดำเนินชีวิตในบรรยากาศใหม่ๆแล้วหรือยัง ถ้าไม่แน่ใจลองมองเช็คลิสต์กลุ่มนี้กัน

 

ตัดแต่งต้นไม้ พื้นที่รอบบ้านนับเป็นส่วนประกอบสำคัญของการพำนัก โดยยิ่งไปกว่านั้นบ้านที่มีการจัดสวนปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ไว้สำหรับให้ร่มเงา ซึ่งอาจก่อให้มีกิ่งก้านมากไม่น้อยเลยทีเดียว หรือขนาดลำต้นของต้นไม้ที่เติบโตจนถึงสูงมากเกินความจำเป็น

เพราะว่าตลอดทั้งปีที่ไม่ว่างดูแลหรือตัดแต่งก้านไม้ให้มีความสวยสดงดงาม ในขณะก่อนปีใหม่นี้ถึงเวลาที่ควรจะทำตัดแต่งก้านไม้ตามต้นไม้ต่าง ๆ ให้มีทรงที่พอดิบพอดีกับตัวบ้าน พร้อมตรวจสอบว่ามีก้านไม้ใดบ้างที่มีความเสี่ยงต่อการหักง่าย เพื่อคุ้มครองป้องกันการเกิดอันตรายสำหรับเพื่อการพักอาศัยของทุกคนในครอบครัว

 

แต่งสวนรอบบ้านให้มีความสวยสดงดงาม ภายหลังจากตัดแต่งก้านไม้ในสวนรอบบ้านเป็นระเบียบก็ดี ก็ถึงเวลาจัดการปัญหาสนามเกลื่อนกลาดไม่สวยสวยให้เรียบร้อย เริ่มด้วยการใช้เวลาว่างในตอนวันหยุดติดต่อกันหลายวันร่วมกับสมาชิกในครอบครัว ด้วยการเชิญกันมากมายวาดใบไม้บนลานสนาม ก่อนจะลงมือตัดแต่งสนามให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

แม้ฯลฯต้นหญ้าประเทศญี่ปุ่นที่มีใบเรียวขนาดเล็ก และก็ปลายเรือใบแข็ง ควรจะตัดแต่งด้วยกรรไกรที่มีใบมีดคมหรือใช้เครื่องตัดหญ้าที่มีกำลังสูง

เพื่อสนามของบ้านมีความสวยเรียบเท่ากัน โดยควรจะตัดทุก 7-10 วัน เพราะว่าถ้าเกิดต้นหญ้าประเภทนี้ยาวขึ้นจะมีการกลุ่มตัวที่มองไม่สวยสวย แต่ว่าถ้าเกิดฯลฯต้นหญ้าที่มีใบกว้างมากเพิ่มขึ้นรวมทั้งมีความนิ่มมากยิ่งกว่า อย่างต้นหญ้านวลน้อย สามารถใช้อุปกรณ์สำหรับตัดต้นหญ้าจำพวกใดก็ได้ เนื่องจากสามารถตัดแต่งได้ง่าย

โดย    เครื่องช่วยฟังต้องใส่กี่ข้าง   ควรจะตัดทุก 7-14 วัน แม้กระนั้นถ้าหากบ้านหลังไหนที่ไม่ค่อยมีเวลาตัดแต่งมากมาย บางครั้งก็อาจจะนิยมนำมาปลูกต้นหญ้ามาเลเซีย เนื่องจากมีช่วงเวลาสำหรับในการตัดนานขึ้นราว 10-15 วัน รวมทั้งสามารถใช้อุปกรณ์สำหรับตัดแต่งต้นหญ้าได้ทุกประเภท

 

จัดดอกไม้ใส่แจกันเสริมแต่ง เติมเต็มช่วงที่ความสบายให้เต็มไปด้วยความรู้สึกพิเศษ กับการตกแต่งบ้านด้วยการนำดอกไม้สีงามที่มีกลิ่นหอมสดชื่นมาจัดใส่แจกัน พร้อมที่จะนำไปวางประดับประดาไว้ตามมุมต่างๆของบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศที่สุนทรีย์ให้พื้นที่ด้านในภายเบิกบานใจ รวมทั้งรายล้อมไปด้วยความมีชีวิตชีวารื่นเริงสำหรับช่วงเวลาที่ดีที่จะเริ่มขึ้น

bookmark_borderกลเม็ดแนวทาง แต่งบ้านอยู่สบาย จัดระบบง่าย

กลเม็ดแนวทาง แต่งบ้านอยู่สบาย จัดระบบง่าย น่าใช้สอย แม้คนใดกันกำลังพบว่าระยะนี้เพราะเหตุใดบ้านของพวกเราก็เลยมีข้าวของเครื่องใช้เรี่ยราด ขวางไปหมด บรรยากาศจำเจ ซ้ำจากจำเจไม่น่าอยู่เอาซะเลย ทดลองหาเวลาว่างสักหน่อย

สร้างแบบบ้านน้อยข้างหลังเดิมให้โปร่ง เตียนสบายตา เก็บของใช้ของสอยเก่าแสนเกลื่อนกลาด สร้างบรรยากาศใหม่ จัดระบบ ตกแต่งให้แบบบ้านข้างหลังเดิม น่าอยู่ น่าอาศัย เหมาะสมกับขณะบรรเทาอย่างแท้จริงกันเถิด ด้วยกลเม็ดแต่งบ้านอยู่สบาย ที่พวกเราเอามาฝากกัน

 

– ครัวนั้นนับว่าเป็นห้องที่แสดงสุขลักษณะของคนในบ้าน เพราะฉะนั้นพวกเราจะต้องจัดครัวให้ไม่เกลื่อนกลาดแล้วก็เป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เป็นประจำ ตัวอย่างเช่น แบ่งประเภทสิ่งของภาชนะประเภทเดียวกันไว้ร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น จาน จานชาม ถ้วยน้ำ แก้วกาแฟ แล้วต่อจากนั้นข้างในกรุ๊ปเดียวกันนั้นบางทีอาจเพิ่มลูกเล่นการจัดเรียงแบบคละสี ไว้บนชั้นติดผนัง ครัวแสนปกติก็จะมองสนุกสนานขึ้นมาเลยละ

 

– ชั้นที่เอาไว้สำหรับเพื่อวางสิ่งของเป็นเครื่องเรือนอีกชิ้นที่ผู้คนจำนวนมากนิยมเอามาตกแต่งบ้าน เป็นอีกทั้งเครื่องเรือนแล้วก็ตัวช่วยสำหรับเพื่อการจัดระบบ แต่ว่ายิ่งอยู่ใกล้ๆพื้นที่พักพวกเราเท่าใด บางทีอาจเผลอเอาโน่นเอานี่มาวางอยู่เสมอๆจนกระทั่งบ้างครั้งทำให้เกลื่อนกลาด เลิกเถิดจ้ะ!!

มาจัดชั้นที่มีไว้สำหรับวางของให้เรียบร้อยกัน เริ่มแรกถ้าหากล่องงามๆมาเก็บของจุกจิกให้เป็นหมวดหมู่ หนังสือจับเรียงตั้งตามภาพ บางทีก็อาจจะทดลองหาของตกแต่งเก๋ๆสักชิ้นมาวางก็ได้ เช่น ตะเกียง กรอบรูปงามๆฯลฯ…เชื่อเถอะว่าครั้งถัดมาจะหาของง่ายดายกว่าเดิม และไม่กล้าทำเกลื่อนกลาดอีกแน่ๆ

 

– หาภาชนะที่มีรูปร่าง ทรงราวกับๆกัน มาใช้แทนบรรจุภัณฑ์ที่มากับผลิตภัณฑ์เดิม ที่ชอบมีรูปร่างสีสันแตกต่างกัน จะช่วยทำให้มองเป็นระเบียบแล้วก็น่าใช้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบ่งกลุ่มเครื่องใช้ที่มีการใช้งานเกี่ยวข้องกัน วางไว้ใกล้กัน เพื่อความสบายแล้วก็เร็วในจับจับเพื่อใช้งาน ช่วยทำให้การแต่งบ้านไม่เกลื่อนกลาด

 

– ด้านในการตกแต่งห้องนอนนั้น ให้เลือกเสื้อผ้ารวมถึงของที่พวกเราไม่เคยจะจับใช้เลยตอนที่ผ่านมา แล้วก็นำของที่เกือบจำไม่ได้พวกนั้นออกมาเพื่อไปขาย บริจาค หรือให้ผู้ใดก็ได้ หลังจากนั้นจัดตู้ใหม่ แยกการใช้แรงงาน จัดหมวดหมู่ของผ้า และก็ถ้าล่องมาเก็บแอคเซสเซอปรี่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เท่านี้ บ้านก็งามน่าใช้งานแล้วละ

 

– ของสะสมที่เป็นประเภทเดียวกัน ให้เอามาเรียงโชว์ให้สวยงาม รวมทั้งสีของเครื่องใช้สอยที่ใกล้เคียงไว้ร่วมกัน จะมีผลให้มองดูสบายตายิ่งขึ้น ชี้แนะให้ใช้ตู้ขนาดใหญ่ไปเลยจ้าขา เพราะว่านอกเหนือจากใช้เก็บของให้เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังช่วยกันห้องแยกการใช้แรงงานได้อีก

 

สนับสนุนโดย    hoiana เวียดนาม

bookmark_borderกลเม็ดแต่งบ้าน สร้างความสงบเงียบ ลดความตึงเครียด

กลเม็ดแต่งบ้าน สร้างความสงบเงียบ ลดความตึงเครียด ทดลองกลับมาสร้างบรรยากาศบ้านพัก หรือบ้านของพวกเราให้มีความสงบเงียบ ลดความตึงเครียด ด้วยวิธีการตกแต่งบ้านดังนี้

รอบ ๆ ปากทางเข้าบ้าน

 – สร้างจุดโฟกัสที่น่าดึงดูด อย่างแรกที่คุณมองเห็นเมื่อเดินเข้ามาในบ้านจะต้องเป็นสิ่งที่ทำให้ท่านกระปรี้กระเปร่า ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ แจกันดอกไม้ หรือของสะสมที่มีความพิเศษ นี่เป็นหลักฮวงจุ้ยกล้วยๆด้วยเหตุว่าพลังที่ดีจะเริ่มจากการได้มองเห็นสิ่งที่ทำให้มีความรู้สึกต้องใจ  

– จัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ให้เรียบร้อยทุกวี่ทุกวัน ไม่ว่าคุณจะมองเห็นอะไรที่พื้นก็ตาม อีกทั้งหนังสือพิมพ์เก่า กระเป๋าที่ได้รับบริจาคมา หรือใดๆที่เป็นความรก อย่ากองมันไว้รอบ ๆ ปากทางเข้า

 

ห้องรับแขก 

– ตัดเครื่องใช้ที่ไม่สำคัญ คุณอาจจำเป็นต้องตกลงใจว่าในห้องรับแขกนั้นมีอะไรที่ต้อง ไหมต้องบ้าง กรอบรูป โต๊ะ ของตกแต่ง เพราะเหตุว่าวิธีการทำให้ห้องเตียนโล่ง มองโปร่งขึ้นจะมีผลให้รู้สึกเพลิดเพลินใจ 

– ทำให้ห้องมองน่าดึงดูดในบางจุด เพิ่มความสว่างให้กับห้องในบางจุด โดยไม่จำเป็นจำเป็นต้องทำให้ห้องนั้นมีความสว่างสะดุดตาไปทั่วทั้งสิ้น ทดลองเจาะให้มีสักจุดใดจุดหนึ่งทำให้ห้องๆนั้นเด่นขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดที่คุณต้องการที่จะให้นั่นมีความสว่าง 

– สร้างทางเดินให้มีความสบายสบาย ข้างในห้องรับแขก แม้คุณเกือบจะมิได้นั่งเก้าอี้ในห้องรับแขก แต่ว่าเก้าอี้นั้นกลับตั้งอยู่ชิดกับเครื่องเรือนชิ้นอื่นในห้อง ให้ทดลองขยับ และก็สร้างให้กำเนิดฟุตบาทที่สะดวกเยอะขึ้น 

– ลดความสลับซับซ้อนของโทนสีต่าง ๆ ลง ถ้าเกิดในห้องของคุณมีโทนสีที่สว่างจนกระทั่งเหลือเกิน หรือมีของตกแต่งที่ลวดลาย หรือเป็นสีสันจัดจ้า มันจะเปลี่ยนเป็นจุดเย้ายวนใจไปทั่วห้อง โดยเหตุนั้นการออกแบบที่เรียบง่าย หรือใช้สีโทนเย็นจะช่วยทำให้ห้องมีความบรรเทาเยอะขึ้นเรื่อยๆ

– สร้างสิ่งแวดล้อมให้เป็นธรรมชาติ การนำความยุติธรรมชาติเข้ามาในห้องนั้นช่วยสร้างความเกี่ยวข้องที่ดีกับคนอื่นๆ ด้วยเหตุดังกล่าวบางครั้งอาจจะนำไม้ห้อย ภาพทิวทัศน์วิวต่างๆหรือจะติดกระจกบานใหญ่ฝั่งตรงข้ามเพื่อสะท้อนให้เห็นภาพจากภายนอกตึก หากข้างนอกของคุณเป็นสวน ก็จะยิ่งสวยสดงดงาม

ห้องนอน

– ใช้เฉดสีธรรมชาติ ผู้ชำนาญมักชี้แนะว่าโทนสีเย็นอาทิเช่นสีเขียว สีฟ้า หรือโทนสีกลางจะก่อให้พวกเรารู้สึกบรรเทา แม้กระนั้นหากสีเดิมของคุณไม่ช่วยทำให้บรรเทา และก็คุณไม่พร้อมจะลงสีใหม่ ทดลองหาของตกแต่งเข้ามาเพิ่มสีโทนเย็นในห้องนั้นแทนก็ได้

-ปิดเครื่องไม้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจที่ง่ายมากยิ่งขึ้นให้ลบการรบกวนจากทีวี คอมพิวเตอร์ อื่นๆอีกมากมาย ทั้งหมดทั้งปวงออกมาจากห้องนอน ด้วยเหตุว่าแสงสว่างที่ปลดปล่อยออกมาจากเครื่องมือกลุ่มนี้จะส่งสัญญาณทำให้สมองตื่นตัว ทำให้ไม่อาจจะหลับได้สนิทและก็ทำให้ท่านหรูหราความตึงเครียดสูงในตอนเวลาเช้า ถ้าหากจำเป็นจะต้องเก็บเครื่องมือกลุ่มนี้เอาไว้ในห้องนอน เสนอแนะให้วางโทรทัศน์เอาไว้ในตู้แทน

 

สนับสนุนโดย    ปัญหาเกี่ยวกับหูตึง

bookmark_borderว่ากันด้วยเรื่องของแอร์

กล่าวถึง แอร์ หรือ Air conditioner มาบอกกล่าวสู่คุณ แอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ปรับอุณหภูมิของอากาศในที่พักอาศัย เพื่อมนุษย์ได้อาศัยไม่ร้อน หรือเย็นจนกระทั่งเกินความจำเป็น หรือใช้รักษาภาวการณ์อากาศให้คงเดิม แอร์มีอีกทั้งแบบตั้งกับพื้น ติดฝาผนัง และก็ห้อยเพดาน

ปฏิบัติงานด้วยวิธีการการระบายความร้อน กล่าวอีกนัยหนึ่ง เมื่อความร้อนระบายออกไปด้านนอก อากาศด้านในห้องจะมีอุณหภูมิต่ำลง และก็แอร์อาจมีความรู้ความเข้าใจสำหรับในการลดความชุ่มชื้นหรือการฟอกอากาศได้อีกด้วย

ถ้าแบ่งได้ตามลักษณะของระบบการทำงานได้ 3 ระบบสำคัญ ๆ เป็น

1.ระบบ Window Type เป็นระบบที่รวมทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ในที่เดียวกัน

2. ระบบ Split Type เป็นระบบที่นิยมใช้กันมากมายในตึกอาศัยอยู่ทั่ว ๆ ไป รวมทั้ง

3. ระบบ Water Chiller ที่มักจะใช้ในงานอาคารสำนักงานขนาดใหญ่

สำหรับที่พักทั่ว ๆ ไประบบSplit- type จะเป็นที่นิยมสำหรับในการใช้งานเยอะที่สุด มีต้นแบบการตั้งที่นานาประการเป็นต้นว่า ตั้งกับพื้น ติดฝาผนัง ห้อยฝ้าหรือฝังในฝ้า

คุณลักษณะเด่นก็คือไม่ค่อยมีเสียงดังมากเท่าไรนัก เนื่องจากตัวคอยล์ร้อน จะอยู่ห่างออกไป แม้กระนั้นมีข้อเสียในหัวข้อการจัดตั้ง ที่จำต้องจัดแจงพื้นที่วางคอยล์ร้อน และก็ระบบท่อน้ำทิ้ง

องค์ประกอบของแอร์ที่พวกเราเห็นกันจะมี 3 ส่วนเป็น compressor คอยล์ร้อน และเย็น โดยส่วนที่พวกเราจัดตั้งเอาไว้ในห้องเรียกว่าคอยล์เย็น ที่จะมีหน้าที่สร้างความเย็น แล้วก็มีตัวคอมเพรสเซอร์รอเวียนน้ำยาที่ซับความร้อนด้านในห้องออกมาแล้วส่งไปที่แผงคอยล์ร้อยที่จัดตั้งอยู่นอกบ้าน

ขนาด BTU พื้นฐานสำหรับในการเลือกใช้งาน ให้สมควร จะคือการใช้งานงานได้อย่างคุ่มค้ารวมทั้งลดรายจ่ายแล้วก็พลังงาน แม้เลือกใช้งาน BTU สูงไป compressor จะมีรอบการตัดบ่อยเกินไป ทำให้คุณภาพ

สำหรับในการดำเนินการต่ำลง ทำให้ความชุ่มชื้นในห้องสูง ไม่สบายตัว และก็ที่สำคัญราคาสูง และก็สิ้นเปลืองพลังงาน และก็ถ้าหาก BTU ต่ำไป compressorดำเนินงานตลอดระยะเวลา เพราะเหตุว่าความเย็นห้องมิได้ตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้ สิ้นเปลืองพลังงาน รวมทั้งแอร์เสียเร็ว

 

พวกเราสามารถหาขนาด BTU พื้นฐานสำหรับการเลือกใช้งานได้จากการเปรียบเทียบกับขนาดห้องที่ใช้งาน BTU เท่ากับ ตัวแปร คูณขนาดพื้นที่ห้อง

ตัวแปรสำหรับที่อยู่อาศัยทั่วไปคือระดับที่ความสูงฝ้า ส่วนมากไม่เกิน 2.5 เมตร 

เดี๋ยวนี้ราคาแอร์ ราคาเริ่มตั้งแต่ 12,000-15,000 บาท จนกระทั่งสองถึงสามหมื่นบาท แล้วก็จุดที่จำเป็นต้องพิจารณาก่อนจะมีการจัดตั้งแอร์ ดังต่อไปนี้ ระยะห่างของคอยล์ร้อนและก็คอยล์เย็น, จุดจัดตั้งรอย์ร้อนแล้วก็ท่อเพื่อระบายน้ำ, จุดจัดตั้งคอยล์เย็นซึ่งสามารถกระจัดกระจายความเย็น, และก็ขนาดสายไฟที่รองรับรวมทั้งสวิทช์ Load Breaker

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เวียดนามมีคาสิโนไหม